ทำเอาโชเฟอร์งง เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งโบกแท็กซี่เพื่อเดินทางข้ามเมืองไกล 646 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางนาน 8 ชั่วโมง แต่เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง หญิงสาวกลับไม่มีเงินจ่าย แถมค่าโดยสารก็สูงมากด้วย
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 เมื่อคนขับแท็กซี่ได้นำตัวผู้หญิงคนหนึ่งส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะเธอไม่มีเงินจ่ายค่าโดยสาร อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่บอกว่า แท็กซี่ควรถามผู้โดยสารตั้งแต่แรกว่ามีเงินพอที่จะจ่ายค่าโดยสารหรือไม่ ก่อนจะรับไปส่งยังที่หมาย
คนขับแท็กซี่เล่าว่า หญิงสาวคนนี้ได้โบกรถของเขาและบอกว่า ให้เขาไปส่งที่เนินทรายทตโตริโน ในตอนนั้นคนขับแท็กซี่ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เพราะมันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นยอดนิยมอยู่แล้วของจังหวัดทตโตริ และด้วยความที่มันอยู่ในชนบท จึงไม่ค่อยมีรถโดยสารบ่อยนัก คนส่วนมากจึงนิยมเรียกแท็กซี่เพื่อไปเนินทรายทตโตริโนอยู่เป็นประจำ
แต่มันก็มีเรื่องแปลกอยู่ 2 อย่างนั่นคือ หญิงคนนี้โบกแท็กซี่ของเขาตอนเวลาประมาณต 2 ครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่น่าจะเดินทางกลับบ้านมากกว่าไปเที่ยว และ 2 หญิงคนนี้ขึ้นรถที่สถานีทตซึโกะในเมืองโยโกฮาม่าซึ่งอยู่ห่างจากทตโตริไปครึ่งประเทศ หรือประมาณ 646 กิโลเมตร โดยต้องผ่านหลายเมืองในญี่ปุ่น
Google Maps ได้คำนวณเวลาออกมาว่าเขาต้องใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 8 ชั่วโมงเพื่อไปส่งเธอ ซึ่งมันต้องผ่านทางด่วนอีกมากกมาย จึงได้เพิ่มค่าทางด่วนเข้าไปในค่าโดยสาร แต่ตอนนั้นเขาก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร ในเมื่อหญิงสาวให้ไปส่ง เขาก็คิดว่าจะพาเธอไปให้ถึงจุดหมายอย่างเร็วที่สุด
เมื่อถึงจุดหมาย ปรากฏว่าค่าโดยสารออกมาอยู่ที่ราคา 236,690 เยน หรือประมาณ 68,390 บาท แต่หญิงสาวบอกว่าเธอไม่มีเงิน ดังนั้นคนขับแท็กซี่จึงพาเธอส่งที่สถานีตำรวจในเมือง
ในตัวของหญิงสาวมีเงินเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเยนเท่านั้น ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถามถึงชื่อหรือที่อยู่ หญิงสาวก็ตอบว่าไม่รู้ และไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนด้วย คาดว่าน่าจะมีอาการทางจิต และหากเป็นกรณีนี้ แท็กซี่จะมักจะไม่เงินชดเชยค่าโดยสารอย่างเต็มจำนวน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่บอกว่าคนขับแท็กซี่ควรสอบถามก่อนว่าผู้โดยสารมีเงินจ่ายหรือไม่ และช่วงเวลาตี 2 นั้นเป็นช่วงเวลาที่คนเรียกแท็กซี่กลับบ้าน หรือมึนเมาและหลงทาง ดังนั้นจึงเป็นอุทาหรณ์ให้คนขับแท็กซี่ว่าควรดูให้ดีก่อนจะตกลงรับขึ้นมา
ที่มา : soranews24