เทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนาไปไกลมากกว่าที่ทุกคนคิดไกลไปถึงขั้นที่เราคิดเอาไว้แล้วว่าจะสามารถชุบชีวิคตนตายได้เลย ซึ่งเรื่องราวนี้เป็นของชายชาวจีน เขาสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักไป แต่เขาก็เลือกจะเก็บร่างของเธอเอาไว้โดยหวังว่าสักวันจะชุบชีวิตของเธอขึ้นมาใหม่
Gui Junmin ชายชาวจีนวัย 49 ปี จากมณฑลชานตง และภรรยาของเขานาง Zhan Wenlian เสียชีวิตลงไปในปี 2017 ด้วยโรคมะเร็งปอด สร้างความเสียใจให้นาย Gui มาก
หลังจากที่เธอเสียชีวิตบนเตียงนอน เขาได้นำร่างของเธอเข้าสู่กระบวนการ Cryogenics หรือการแช่ร่างกายด้วยอุณหภูมิที่ต่ำมาก ๆ เพื่อรักษาสภาพร่างกายให้สมบูรณ์ที่สุดโดยที่เวลาไม่สามารถทำอะไรได้
เขาทำการศึกษาด้วยตนเอง ทั้งปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เกี่ยวกับเทคโนโลยี คำตอบที่ได้คือ เขาต้องเอาร่างของภรรยามาแช่แข็ง ก่อนที่เขาจะลงมือทำ เขาเคยถามภรรยาของเขาแล้วว่าพร้อมจะทำแบบนี้หรือไม่ แต่เนื่องจากมะเร็งได้ลามไปทั่วสมองทำให้เธอตอบโต้ด้วยคำพูดไม่ได้ เขาจึงว่าถ้าเธอพร้อมให้บีบมือ ซึ่งเธอก็บีบมือตอบแบบเบา ๆ นั่น เขาถือว่าเป็นคำตกลงของภรรยาแล้ว
ภรรยาของเขาเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2017 ร่างของเธอถูกเข้ารับการผ่าตัดเป็นเวลา 55 ชั่วโมงในสถาบันวิจัย Shandong Yinfeng Life Science Research Institute ก่อนที่จะนำร่างมาใส่ในถังแช่เแข็งเป็นเวลา 50 ปี
นาย Gui ขอดูหน้าภรรยาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกเก็บรักษา เขาเห็นเพียงแค่ใบหน้าของหญิงสาวที่เขารักเหมือนเธอเพียงผล็อยหลับไปเท่านั้น และเขาหวังว่าอีก 50 ปีข้างหน้าจะสามารถชุบชีวิตของเธอขึ้นมาได้
ภายในถังแช่แข็งบรรจุไปด้วยไนโตรเจนเหลว 2000 ลิตร และกักเก็บอุณหภูมิไว้ที่ -196 องศาเซลเซียส ซึ่งภรรยาของนาย Gui ไม่ได้เป็นเคสแรกที่ร่างถูกทำการแช่แข็งเพื่อรักษาสภาพร่างกายในปัจจุบันมีอีก 10 ร่างที่เข้าสู่กระบวนการเดียวกันนี้ มีอายุอยู่ที่ระหว่าง 13-72 ปี และผ่านการดูแลโดยสถาบันวิจัยนี้ทุกร่าง