ประเด็นเรื่องสีผมของนักเรียนดูเหมือนว่าเป็นปัญหาทั่วโลก เพราะล่าสุดนักเรียนจากประเทศญี่ปุ่นโดนไล่ออกเพราะทางโรงเรียนหาว่าเธอย้อมผมซึ่งที่จริงแล้วมันคือสีผมธรรมชาติของเธอ สุดท้ายเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นขึ้นศาลและยืดเยื้อมาหลายปี จบลงด้วยที่โรงเรียนต้องจ่ายค่าเสียหายให้เธอ!
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์จากต่างประเทศรายงานข่าวเกี่ยวกับนักเรียนหญิงคนหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น ถูกโรงเรียนไล่ออกตั้งแต่ปี 2015 โดยกล่าวหาว่าเธอย้อมสีผมและไล่นักเรียนคนนี้กลับบ้าน เมื่อนักเรียนคนนี้ไม่มาเรียนอีก ทางโรงเรียนจึงตัดชื่อเธออกจากรายชื่อการเป็นนักเรียน
กฎของทางโรงเรียนมีอยู่ว่านักเรียนทุกคนต้องมีผมสีดำ เพราะเป็นสีผมตามธรรมชาติของชาวญี่ปุ่น แต่มันไม่ใช่ทุกคน เพราะบางคนก็มีผมสีน้ำตาลเข้มมาตั้งแต่เกิด ซึ่งส่วนใหญ่ทางโรงเรียนมักบีบบังคับให้นักเรียนย้อมผมเป็นสีดำมาโรงเรียน
ในปี 2015 โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดไคฟุคัง ในเมืองฮาบิกิโนะ จังหวัดโอซาก้า มีนักเรียนหญิงถูกเตือนมาหลายครั้งแล้วว่าให้เธอไปย้อมผมเป็นสีธรรมชาติ เด็กสาวยืนยันกับทางโรงเรียนว่าผมธรรมชาติของเธอคือสีน้ำตาล แต่ทางโรงเรียนไม่เชื่อโดยอ้างว่า คุณครู 3 คนได้ทำการตรวจรากผมของเด็กและพบว่ามันเป็นสีดำ
ทางโรงเรียนกำชับมาว่าถ้าเธอไม่ยอมย้อมผมกลับเป็นสีดำ เธอจะถูกไล่ออก เด็ดสาวรู้สึกกดดันและเป็นทุกข์เธอจึงไม่มาโรงเรียน และนั่นเป็นเหตุทำให้เธอถูกตัดชื่ออกจากการเป็นนักเรียนที่นี่ทันที
เด็กสาวจึงตัดสินใจดำเนินการกับทางโรงเรียนโดนไปที่ชั้นศาลในปี 2017 และฟ้องร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 2.2 ล้านเยน (ราว 650,000 บาท) โดยมีคู่กรณีเป็นเทศบาลโอซาก้า ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลโรงเรียนดังกล่าว
จนเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลได้พิพากษาให้โรงเรียนมีความผิดและต้องชดใช้ค่าเสียหายให้นักเรียนคนนี้ โดยประธานผู้พิพากษา โนริโกะ โยโกต ะ เห็นด้วยกับกฎที่โรงเรียนให้นักเรียนมีผมสีดำ แต่การที่โรงเรียนลบชื่อนักเรียนออกจากระบบมันเป็นสิ่งที่พวกเขายอมรับไม่ได้ และให้เทศบาลโอซาก้าจ่ายค่าชดเชยให้นักเรียนคนนี้เป็นเงิน 330,000 เยน (ราว 1 แสนบาท)
ที่มา : soranews24