เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2564 มีรายงานข่าวว่า พ.ต.อ. ชุมพล พิศลย์กุลพันธ์ ผกก.1 บก.ทท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง นำกำลังชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวเข้าจับกุม นายสนธ์ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.สว่างแดนดิน ที่ 39/2554 ลงวันที่ 21 กันยายน 2554 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ๆ โดยให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
โดยสามารถจับกุมได้ขณะหลบซ่อนตัวในกระท่อมไม่มีเลขที่ ในสวนยางพารา พื้นที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวก รวม 4 คน ก่อเหตุฆ่าคนตาย และนำศพไปทิ้งไว้ที่เขื่อนน้ำอูน อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร เมื่อปี 2554 ก่อนจะแยกย้ายหนีไป
โดยนายสนธ์ หลบหนีไปทำงานที่ภาคใต้นานกว่า 10 ปี ตลอดระยะเวลานั้นมีความระมัดระวังตัวตลอดเวลา ไม่ติดต่อใครทั้งนั้นนอกจากคนในครอบครัว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจซึ่งเฝ้าติดตามพฤติกรรมและลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบว่าลูกชายของนายสนธ์ มาบวชเรียนที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี จึงปลอมตัวเป็นพระเข้ามาสืบสวนหาข่าวที่วัดดังกล่าว โดยได้มีการประสานงานร่วมกับพระผู้ใหญ่ในพื้นที่
ทั้งนี้ชุดสืบสวนทราบว่าในวันที่ 6 มิถุนายน ภรรยาของนายสนธ์จะเดินทางมาพบกับพระลูกชาย ตำรวจที่แฝงตัวเป็นพระจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม และสอบถามกระทั่งทราบที่อยู่ของผู้ต้องหา และทำทีขอนำอาหารไปให้ผู้ต้องหาเองร่วมกับทางครอบครัว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนคอยดูอยู่ไม่ห่าง จนเมื่อถึงกระท่อมที่ผู้ต้องหาหลบซ่อนตัว จึงส่งอาหารให้และแสดงตัวเข้าจับกุมทันที
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่มีการปิดทางเข้า-ออกทุกจุด เพื่อป้องกันการหลบหนี และเมื่อจับกุมผู้ต้องหาได้ก็นำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และให้การที่เป็นประโยชน์ จนเมื่อสอบปากคำเสร็จก็ได้คุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป