เชื่อว่าถ้าเป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่นักเรียนโดนครู อาจารย์ตัดผมคงเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศไทย แต่บอกเลยว่าบางประเทส การที่ครูตัดผมนักเรียนโดยพลการนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายเพราะมันเป็นการละเมิดสิทธิของเด็ก เหมือนเรื่องราวนี้ที่ผู้ปกครองฟ้องค่าเสียหายครู 33 ล้านเพราะตีดผมลูกสาวของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต…
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเด็กหญิง Jurnee Hoffmeyer วัย 7 ขวบ ถูกเพื่อนแกล้งโดยใช้กรรไกรตัดผมด้านข้างจนผมแหว่งหายไป ทำให้ นาย Jimmy Hoffmeyer คุณพ่อของน้องต้องพาลูกสาวไปแก้ไขทรงผมใหม่ เพื่อให้มันดูไม่น่าเกลียดเกินไปนัก
วันต่อมา Jurnee ก็ได้ถูกครูคนหนึ่งกับรรณารักษ์ตัดผมซ้ำอีก โดยอ้างว่าต้องการเล็มผมของน้องให้เท่ากัน ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อของน้องพาไปแก้ทรงผมแล้ว
เมื่อกลับบ้านไปคุณพ่อเห็นผมของลูกสาวสั้นลงไปอีก จึงพูดกับลูกสาวว่า “พ่อบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าให้เด็กคนไหนมาตัดผมลูกอีก” ซึ่งน้อง Jurnee ก็บอกว่า “คราวนี้คุณครูเป็นคนตัด” นั่นทำให้คุณพ่อไม่พอใจเป็นอย่างมาก
คุณพ่อเลยเดินทางไปที่โรงเรียนเพราะตอนนี้ผมของ Jurnee สั้นลงมากเหลือเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น ซึ่งทำให้น้องได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ แถมคุณครูคนอื่นที่รู้เรื่องก็ไม่คิดจะช่วยลูกของตนเองเลย แม้ว่าคุณครูจะขอโทษคุณพ่อแล้วก็ตาม
ดังนั้นคุณพ่อจึงทำการย้ายลูกสาวออกจากโรงเรียนและเข้ายื่นฟ้องต่อศาลมิชิแกน เพื่อเอาผิดกับครูและบรรณารักษ์ โดยเรียกเงินเป็นจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว ๆ 33 ล้านบาท)
ทางโรงเรียนได้ออกมาเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้ตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวแล้วและยืนยันว่าการที่ครูและบรรณารักษ์ตัดผมให้ Jurnee นั้นเป็นเพราะความหวังดี ไม่ได้เกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติแต่อย่างใด
การตัดผมครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต ทางโรงเรียนได้ตักเตือนทั้งสองคนไปแล้วและสามารถทำงานในโรงเรียนต่อไปได้อยู่ แต่ถ้ามีการทำผิดอีกทีโรงเรียนจะยกเลิกสัญญาของทั้งสองทันที