หลายปีที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าร้านอาหารหลายร้านอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในร้านด้วยได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสังคมปัจจุบันมีการยอมรับการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และสัตว์เลี้ยงมากยิ่งขึ้น
แต่เมื่อไม่นานมานี้สื่อต่างประเทศรายงาน พนักงานขับรถโดยสารประจำปฏิเสธสุนัขนำทางไม่ให้ขึ้นรถ เรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นร้อนให้ถกเถียงกันเป็นอย่างมาก
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมืองแห่งหนึ่ง ประเทศโคลอมเบีย ขณะที่ผู้พิการทางสายตารายหนึ่งพาสุนัขนำทางขึ้นรถบัสประจำทาง แต่จู่ๆพนักงานขับรถก็แสดงท่าทีโมโห พร้อมทั้งไล่พวกเขาลงจากรถ ยังบอกอีกว่า “เราไม่สามารถให้คุณพาสุนัขขึ้นมาบนรถได้!แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการพามันไปด้วย ก็คงต้องให้มันไปอยู่ในที่เก็บสัมภาระใต้ท้องรถ หรือไม่คุณทั้งคู่ก็ลงจากรถคันนี้ไปเลย”
ผู้โดยสารคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ ต่างรีบพาชายผู้พิการทางสายตาและเจ้าสุนัขนำทางขึ้นไปนั่งบนรถก่อนจะเข้าไปช่วยพูดไกล่เกลี่ยกับพนักงานขับรถ เพราะคิดว่าพนักงานขับรถรายนี้ไม่มีเหตุผลเอาซะเลยที่ไม่ยอมให้ ชายผู้พิการทางสายตาและสุนัขของเขาขึ้นรถ แต่ไม่ว่าจะพยายามพูดเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นผล
ดูเหมือนว่าเจ้าสุนัขนำทางจะรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนทะเลาะกัน คิดว่าเป็นความผิดของมัน จึงนั่งนิ่งสงบอย่างเจียมตัว แสดงสีหน้าเศร้าเสียใจ
ในความเป็นจริงแล้วเจ้าสุนัขไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เพราะตามกฎหมายของโคลอมเบียแล้ว สุนัขนำทางสามารถโดยสารรถประจำทางได้โดยไม่ผิดกฎหมาย และเห็นได้ชัดว่าพนักงานขับรถรายนี้ไม่มีความรู้เรื่องกฏหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
สุดท้ายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย และอธิบายถึงข้อกฏหมายที่ถูกต้องว่า “สุนัขนำทางเป็นกรณียกเว้น สามารถโดยสารรถประจำทางได้โดยไม่ผิดกฏหมาย” ในที่สุดพนักงานขับรถจึงยอมให้สุนัขนำทางตัวนี้ขึ้นรถ
หวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นครั้งสุดท้ายและเป็นบทเรียนตัวอย่างให้พนักงานขับรถบัสสาธารณะ ว่าการเคารพกฎหมายนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรศึกษาข้อกฎหมายให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก