ส่องความน่ารักของนกฮูก 5 ชนิด

นกฮูกกับสัญลักษณ์และความเชื่อ

แม้ว่าธรรมชาติของนกฮูกจะไม่ใช่สัตว์ที่ใกล้ชิดกับมนุษย์เท่าไหร่นัก แต่พวกมันกลับกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนความเชื่อของมนุษย์อย่างแยบยล ซึ่งไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่มีความเชื่อเรื่องโชครางกับนกชนิดนี้ ในชาติอื่นๆ ทั่วโลกก็นำนกฮูกมาเป็นตัวแทนที่ให้ความหมายแตกต่างกันไป

คนไทยมีความเชื่อแต่โบราณว่า เมื่อนกแสกหรือนกฮูกบินไปเกาะที่บ้านหลังไหน พร้อมส่งเสียงร้องกุ๊กกู่ จะถือว่าเป็นลางร้ายของบ้านนั้น หากมีคนที่เจ็บป่วยอยู่จะต้องเสียชีวิตภายใน 3-7 วัน ส่วนชาวกรีกและโรมันก็มีความเชื่อที่คล้ายกัน โดยพวกเขาใช้นกฮูกเป็นตัวแทนของความมืด เป็นสัญลักษณ์ของซาตานและความตาย

แต่ในประเทศอินเดียกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะพวกเขาเชื่อว่านกฮูกเป็นพาหนะของพระนางลักษมี ซึ่งสื่อสัญลักษณ์ของภูมิปัญญา โชคลาภ และการเกษตร

ด้านประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ ใช้นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ของความเฉลียวฉลาด สติปัญญาและความโชคดี โดยนกฮูกนั้นเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองฮอกไกโด ในประเทศญี่ปุ่น นับว่าเป็นจุดเด่นที่เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาซื้อของที่ระลึกและบรรดาเครื่องรางนำโชคลวดลายนกฮูกได้ ถัดมาที่ความเข้มข้นของกีฬาฟุตบอลในประเทศอังกฤษ จากการเลือกใช้นกฮูก หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่านกเค้าแมว มาเป็นสัญลักษณ์ประจำทีมเชฟฟิลด์ เวนสเดย์ (Sheffield Wednesday F.C.)  สมกับฉายา ‘นกเค้าแมว’ ที่ทีมลูกหนังจากดินแดนผู้ดีอังกฤษได้รับไป

นกแสก (Barn Owl)

เหตุที่ไม่ถูกเรียกว่านกฮูกเหมือนกับเพื่อนพ้องตัวอื่น เป็นเพราะว่าเวลาออกหากินตอนกลางคืนมักส่งเสียงร้องดัง ‘แสก!-แสก! ดังนั้นคนไทยจึงตั้งชื่อให้ว่า ‘นกแสก’ นั่นเอง นกชนิดนี้มีใบหน้ากลมแบน สีขาว มีขนาดลำตัวที่ค่อนข้างใหญ่ เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดถึง 1 ฟุต เพศเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าเพศผู้เล็กน้อย มีจุดที่เล็กๆ บนใบหน้าและลำคอ ที่ช่วยบ่งบอกถึงสุขภาพของเพศเมีย โดยหากมีจุดที่บริเวณดังกล่าวเยอะ แสดงว่ามีสุขภาพที่แข็งแรงดี

นกฮูกเบอร์โรวิ่ง (Burrowing Owl)

เป็นนกฮูกขนาดเล็กที่สุด และเป็นสายพันธุ์ที่พบน้อยมากในปัจจุบัน ความน่าสนใจของนกตัวนี้คือ สามารถออกหาอาหารที่พื้นดินในเวลากลางวันได้  และชอบอาศัยอยู่ในโพรงหรือรังของสัตว์อื่น Anthony Bucci ช่างภาพมืออาชีพเดินทางไปถ่ายภาพเจ้านกตัวนี้ในประเทศแคนาดา และได้ภาพน่ารักชวนเอ็นดูคือ มันยืนเกาะกิ่งไม้ด้วยขาข้างเดียว ซึ่งการยืนเพียงขาข้างเดียว และนำขาอีกข้างซุกเข้าไปใต้ปีก สลับไปทีละข้าง เป็นการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ทั้งนี้สามารถพบนกฮูกชนิดนี้ได้ในแถบประเทศอเมริกาตอนใต้ และประเทศแคนาดา

นกฮูกยูเรเชียน อีเกิล (Eurasian Eagle Owl)

เป็นนกฮูกขนาดใหญ่ มีความแข็งแรงและน่าเกรงขาม ติดอันดับนักล่าที่สุดยอดในยามค่ำคืน มีขนสีน้ำตาล เมื่อกางปีกแล้วสามารถกว้างได้ถึง 2 เมตรเลยทีเดียว ความแข็งแรงของมันไม่เพียงแต่เลือกหนูและกระต่ายเป็นอาหารเท่านั้น เพราะแม้แต่หมาป่ากับกวางก็ไม่สามารถรอดพ้นไปจากสัญชาตญาณนักล่านี้ได้ นกฮูกยูเรเชียน อีเกิลเป็นพันธุ์ที่หายากเพราะว่าชอบสร้างรังอยู่ในถ้ำและหน้าผา มักอาศัยอยู่ในพื้นที่กึ่งทะเลทราย พบได้ในตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ทวีปเอเชีย และทวีปยุโรป

นกฮูกลอง เอียร์ (Long eared Owl) 

ถึงคราวของนกฮูกที่มีขนปุกปุยกันบ้าง สำหรับพันธุ์นี้มีจุดเด่นที่มีขนยาวบนศีรษะและยื่นออกมาคล้ายหูของสัตว์ ซึ่งลักษณะทางกายภาพนี้จะช่วยทำให้กลมกลืนกับธรรมชาติ มักขโมยโพรงของนกตัวอื่นมาเป็นรังของตัวเอง นกฮูกพันธุ์นี้มีถิ่นอาศัยอยู่ในแถบทวีปแอฟริกาเหนือ ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปเอเชีย

นกฮูกแคระ (collared owlet)

เป็นนกฮูกขนาดเล็กที่พบได้ในประเทศไทย มีรูปร่างน่ารัก ลำตัวอ้วนกลม มีขนปกคลุมหนานุ่น หัวกลมโต แต่ภายใต้รูปร่างและหน้าตาที่น่ารักนั้น นกฮูกแคระกลับซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้อย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะว่ามันสามารถล่าสัตว์ที่มีขนาดพอๆ กัน จนถึงตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ ดังนั้นนอกจากหนูและเหล่าแมลงตัวเล็กแล้ว นกฮูกแคระยังโปรดปรานนกชนิดอื่นที่มีขนาดเล็กด้วยเช่นกัน โดยเราสามารถพบนกชนิดนี้ได้ในบริเวณป่าดงดิบชื้น ในประเทศไทยพบมากในภาคใต้เรื่อยมาจนถึงแถบคาบสมุทรมลายู

นกฮูก กับหน้าที่ใหม่เพื่อเอาใจคนรักสัตว์

เรียกได้ว่ากระแสเลี้ยงสัตว์แปลก กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ ซึ่งนกฮูกได้กลายเป็นสัตว์ที่คนอยากหามาเลี้ยงหรือมีไว้ในครอบครองเช่นกัน โดยเฉพาะเจ้านกฮูกแคระ ที่มีรูปร่างหน้าตาน่ารัก เชิญชวนให้ผู้หญิงและเด็กที่รักสัตว์อยากหาเจ้านกชนิดนี้มาเลี้ยงเพื่อคลายเหงาบ้าง

แต่ในกลุ่มคนเลี้ยงนกและคนที่ชื่นชอบสัตว์แปลกนั้น ขอแนะนำให้เลี้ยงนกนำเข้าที่ถูกกฎหมาย ซึ่งนกในกลุ่มนี้จะไม่ได้ถูกจับมาจากธรรมชาติ แต่ได้รับการเพาะพันธุ์มาเพื่อการเลี้ยงดูและสามารถฝึกให้เชื่องได้

อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงนกสักหนึ่งตัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะธรรมชาติของนกเป็นสัตว์ที่รักอิสระ แม้จะได้รับการฝึกให้เชื่อง จนสามารถรับฟังคำสั่งของมนุษย์ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถูกกักขังให้อยู่แต่เพียงในกรงหรือว่าในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เท่านั้น การหาโอกาสให้ได้ฝึกบินและออกล่าเหยื่อบ้าง จะทำให้นกไม่เซื่องซึมและไม่ลืมสัญชาตญาณของตัวเอง

ด้านการให้อาหารก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากว่านกฮูกเป็นสัตว์ที่กินเนื้อ ดังนั้นผู้เลี้ยงจะสามารถให้หนูแช่แข็งและกระรอกแช่แข็งได้ แต่การให้พวกมันกินแต่เนื้อสัตว์ประเภทเดิมซ้ำๆ ก็เป็นเหมือนกับการฝืนธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้นกฮูกที่ถูกเลี้ยงมีอายุสั้นกว่านกฮูกที่ใช้ชีวิตเองตามธรรมชาติ

จากเงื่อนไขต่างๆ ที่กล่าวมา น่าจะสามารถไขข้อสงสัยให้แก่คนที่คิดจะนำนกฮูกมาครอบครองได้ เพราะว่าสัตว์ที่มีหน้าตาน่ารักทุกตัวไม่ได้เหมาะสมต่อการถูกจับมาเป็นสัตว์เลี้ยง

ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวของนกฮูกกำลังสอนมนุษย์อย่างเราอยู่ว่า ธรรมชาตินั้นสวยงามได้อย่างที่มันเป็น โดยที่เราไม่จำเป็นต้องครอบครอง

 

ที่มา : tipsdd

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *