ภาพของเจ้าตูบผู้น่าสงสารที่ถูกมัดติดเอาไว้กับกระดานไม้เก่าๆ นี้ ถูกถ่ายจากสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในเปรู สายรัดที่รัดตัวของมันรัดแน่นจนมันขยับแทบไม่ได้ เจ้าสุนัขผู้น่าสงสารทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นมองผู้คนที่สัญจรไปมาผ่านไปมาเพียงเท่านั้น
หลายคนพยายามแก้มัดมันเพื่อให้เจ้าสุนัขเป็นอิสระ แต่วันต่อมาพวกเขาก็พบว่ามันก็ยังถูกมัดติดเอาไว้ที่เดิมอยู่ดี ในที่สุด กลุ่มวัยรุ่นใจดีกลุ่มหนึ่งจึงตัดสินใจนำตัวเจ้าสุนัขจรจัดตัวนี้ไปให้ ซาร่าห์ โมแรน (Sara Moran) ผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิงและช่วยเหลือสัตว์พิการที่ถูกทิ้ง (Milagros Perrunos)
“มันถูกมัดติดอยู่ที่เดิมอย่างนั้นซ้ำๆ ฉันคิดว่าเจ้าของเองก็คงนำมันมาทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟหลังจากที่เขาพบว่ามันเดินไม่ได้อีกต่อไป” ซาร่าห์กล่าวอย่างเศร้าๆ “มันมีอาการไตวายและกระดูกสันหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก”
เจ้าสุนัขผู้น่าสงสารมีบาดแผลอยู่เต็มตัวไปหมด คงเป็นเพราะถูกมัดเอาไว้อย่างรุนแรง แพทย์บอกว่าขาหลังของมันหักและติดเชื้ออย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้มันไม่รอดผ่านคืนนี้ได้ และถึงแม้เจ้าตูบจะรอด แต่มันก็จะเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต
หลายคนแนะนำให้ซาร่าห์ทำการการุณยฆาตสุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้ เนื่องจากบาดแผลของมันมากเกินไป และหากยื้อชีวิตเอาไว้ก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ซาร่าห์ตัดสินใจไม่ยอมแพ้ เธอใช้เงินบริจาคของศูนย์แทบทั้งหมดบวกกับเงินส่วนตัวของเธอในการส่งตัวเจ้าตูบไปผ่าตัดด้วยความหวังให้มันมีชีวิตรอด
และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เจ้าตูบเองก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาของมัน มันต่อสู้จนสามารถผ่านพ้นการผ่าตัดมาได้ และรักษาตัวจนอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ
ซาร่าห์ดีใจมาก เธอตัดสินใจไม่ผิดที่ต่อสู้ไปกับมัน ซาร่าห์ตั้งชื่อให้มันว่า “คาเบซอนซิโต้” เธอยังซื้อรถวีลแชร์สำหรับสุนัขเพื่อให้เจ้าตูบได้วิ่งเล่นเหมือนกับสุนัขทั่วไป แม้ว่ามันจะไม่สามารถเดินได้เอง ต้องคอยพึ่งวีลแชร์และใส่ผ้าอ้อมตลอดเวลา แต่อย่างน้อยในที่สุดเจ้าตูบก็ได้เป็นอิสระ
เจ้าคาเบซอนซิโต้ได้รับชีวิตใหม่ในที่สุด มันกลายเป็นสุนัขร่าเริงและมีความสุขอยู่ในศูนย์พักพิงกับเพื่อนๆ พี่น้องกว่า 60 ตัว เจ้าคาเบยังเข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนกับซาร่าห์อีกด้วย ผู้คนที่พบเห็นมันต่างพากันชื่นชมในหัวใจนักสู้ของทั้งคู่ และพากันหลงรับเจ้าตูบวีลแชร์ตัวนี้
“คาเบซอนซิโต้เป็นนักสู้จริงๆ แม้ว่ามันจะเคยผ่านเหตุการณ์ที่แสนเลวร้าย แต่มันก็ยังรักและร่าเริงกับผู้คนที่เจอได้ตลอดเวลา” ซาร่าห์กล่าวอย่างภูมิใจ
แม้จะผ่านอดีตที่แสนโหดร้าย แต่ถ้ามีใจสู้ เข้มแข็งก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้แล้วล่ะก็ วันข้างหน้าจะต้องมีอนาคตที่สดใสเหมือนกับเจ้าตูบคาเบซอนซิโต้ตัวนี้แน่นอนค่ะ
หากต้องการช่วยเหลือศูนย์พักพิงของซาร่าห์ โมแรนและเจ้าคาเบซอนซิโต้ สามารถอ่านรายละเอียดได้จาก gofundme ค่ะ