สะใภ้ท้องแก่ อวดอาหารจากแม่สามี ที่ใครเห็นก็ถึงกับอึ้ง

อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่ายังมีคุณแม่ตั้งครรภ์บางราย กลับไม่โชคดีนัก… ยกตัวอย่างกรณีล่าสุดที่หญิงนิรนามโพสต์ในกลุ่มโซเชียลฯ เพื่อแชร์ปัญหาระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ เล่าว่า เธอกำลังตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 32 และแม่สามีมักจะทิ้งอาหารไว้ให้ลูกสะใภ้เสมอ เป็นอาหารที่เก่าเก็บวันแล้ววันเล่า บางที่ก็เป็นข้าวที่ค้างมาเป็นสัปดาห์

ไม่เพียงเท่านั้น แต่การเข้าครัวทำอาหารของแม่สามี มักจะปรุงให้มีรสเค็มและขมอย่างรุนแรง ทำให้ลูกสะใภ้อย่างเธอมักต้องซื้อหรือสั่งอาหารจากภายนอกมาทาน เพราะกลัวจะส่งผลต่อสุขภาพของตนเองและลูกในท้อง

“มันเป็นอาหารที่เธอทิ้งไว้ทั้งสัปดาห์ แต่ถ้าฉันไม่กิน เธอจะบอกลูกชายว่าฉันเอาใจยาก และจะวิจารณ์ฉันทุกอย่าง แต่อาหารนั่นมันกินไม่ได้จริงๆ อาหารที่เธอปรุงมีรสเค็มรุนแรง ฉันท้อง ฉันจึงไม่กล้ากินอาหารรสเค็ม เพราะกลัวจะส่งผลต่อสุขภาพของแม่และเด็ก” ลูกสะใภ้รายนี้เล่า

ทั้งนี้ ลูกสะใภ้คนนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า แม่สามีของเธอไม่ใช่คนยากจน แต่ค่อนข้างมีเงินใช้อย่างไม่ขัดสน แต่เรื่องอาหารประจำวันกลับประหยัดจ่ายตลาดราคาพอๆ กับซื้อของเมื่อปี 2488

“ทุกวันที่สามีหรือฉันซื้ออาหารมากินเพิ่ม เช่น เนื้อย่าง เธอก็บอกว่าของนั้นแพงเกินไป เอาเงินมาจากไหนถึงกินแบบนี้? แต่ในขณะเดียวกันเธอก็บอกให้ฉันกินตลอด เพราะถ้าไม่กินก็ไม่ได้สารอาหาร อาหารที่เธอทำกินก็ไม่ตาย ไม่ต้องห่วง แต่เอาจริงๆ อาหารที่เธอทำไม่มีคุณภาพเลย”

เหตุการณ์ล่าสุดคือเมื่อวันก่อน ลูกสะใภ้ป่วยเป็นไข้ หุงข้าวไม่ได้ และไม่มีใครอยู่บ้าน จึงต้องสั่งอาหารจากข้างนอกมาทาน อย่างไรก็ตาม ในวันรุ่งขึ้นแม่สามีก็ถามเธอว่า ทำไมไม่ทำอาหารเอง เพราะสั่งอาหารจากข้างนอกมันเปลืองเงิน ต้องจ่ายค่าอาหารถึงมื้อละ 3 หมื่นด่อง (ประมาณ 45 บาท)

หลังจากนั้นแม่สามีก็ไปบอกลูกชายว่าภรรยาไม่รู้จักวิธีประหยัดเงิน และทำอาหารจากวัตถุดิบที่มีไม่ได้ แต่กลับสั่งอาหารจากข้างนอกมาทานอย่างหรูหราเหมือนในร้านอาหารแทน

คุณแม่ตั้งครรภ์รายนี้ทิ้งท้ายไว้ว่า “ลูกสะใภ้ป่วยเป็นไข้ ไม่ถามถึงเรื่องป่วย แต่กลับบ่นเรื่องมื้ออาหาร 3 หมื่นด่อง ทุกท่านคงเข้าใจดีว่ามันรู้สึกน่าเบื่อขนาดไหนใช่ไหม? บางทีหลายๆ คนอาจไม่เข้าใจที่แม่สามีจงใจทิ้งอาหารไว้เพื่อวิพากษ์วิจารณ์ฉัน มีเพียงแต่คนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับฉันเท่านั้นที่จะเข้าใจ”