แม่วัย 68 ร้องกัน จอมพลัง ลูกสาวทรพีสั่งลูกเขยตบตีจนบาดเจ็บ แถมไล่ออกจากบ้านหลังได้มรดกไปแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 นางพิสมัย อายุ 68 ปี อยู่ซอยจันทร์สว่าง 3 ถนนอุดรดุษฏี เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งโดนทำร้ายใบหน้าที่ปูดบวมเขียวช้ำ ว่าโดนลูกสาวและลูกเขยทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 31 มกราคม 2567 และแจ้งความต่อ พ.ต.ต.เปรม เตรียมตัว สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567
นางพิสมัย เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน ผู้หญิงกับผู้ชาย โดยตนอาศัยอยู่กับลูกสาวและลูกเขยชื่อ น.ส.ณัฐวรรณ อายุ 35 ปี และนายประชา หรือ บาส ไม่ทราบนามสกุล อายุ 36 ปี ตนโอนที่ดินให้ลูกสาว นำไปกู้ธนาคารมาสร้างบ้าน ซึ่งลูกสาวมักจะดุด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนเคยไปอยู่กับลูกชาย ก็โดนไล่ออกจากบ้าน เมื่อมาอยู่กับลูกสาวก็ไล่ออกจากบ้านอีก แต่ตนไม่ยอมไป ทำให้ลูกสาวและลูกเขยไม่พอใจ
นางพิสมัย เล่าต่อว่า คืนวันที่ 31 มกราคม 2567 ตนกำลังนอนเล่น ลูกสาวดื่มเบียร์ แต่ได้ขว้างขวดเบียร์ใส่กำแพง ขวดเบียร์แตกแก้วกระเด็นมาถูกตนทำให้มีบาดแผล และมีปากเสียง ลูกสาวได้ให้ลูกเขยใช้มือตบหน้าตนหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงโทรหาเพื่อนมาช่วยออกจากบ้านไปโรงพยาบาล และแจ้งตำรวจ ก่อนจะตัดสินใจไม่กลับบ้านไปอยู่กับ
ลูกสาวลูกเขยอีก ตนไปเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และจะดำเนินคดีกับทั้งสองจนถึงที่สุด และขอเรียกมรดกคืน แต่ตนกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย กลัวว่าลูกสาวและลูกเขยจะตามมาทำร้าย และขอความช่วยเหลือในการฟ้องร้องเรียกมรดกคืน
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ในส่วนของคดีทำร้ายร่างกาย จะได้เร่งรัดพนักงานสอบสวนให้สอบปากคำผู้บาดเจ็บ และพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อรวบรวมพยาน หลักฐาน ก่อนจะเรียกผู้ก่อเหตุมาแจ้งข้อกล่าวหา และส่วนเรื่องเกรงจะไม่ปลอดภัย จะให้ตำรวจสายตรวจ และสายสืบ แวะเวียนไปตรวจตราบ้านเช่าที่ผู้บาดเจ็บอาศัย
ส่วน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า คุณยายน่าสงสารมาก ให้ที่ดินลูกสาวปลูกบ้าน ยายส่งลูกเขยเรียน ทุกคนถึงฝั่งประสบความสำเร็จ แต่พอลูกสาวทะเลาะมีปากเสียงกับยาย ลูกสาวกลับเรียกลูกเขยมาทำร้ายยาย ใจคอทำด้วยอะไรถึงทำได้ ดูสภาพยายยับเยินขนาดนี้ คุณยายจะอายุ 70 ปี ส่วนลูกเขยอายุ 36 ปี ทำไมถึงทำได้ลง คุณยายส่งลูกเขยเรียนด้วย เคยด่าว่ามึงตายจะไม่เผาผี มันเป็นการเนรคุณ ฝากภรรยาอย่ารักผัวมากไป หรือผัวอย่าเชื่อภรรยามาก คุณยายตัวคนเดียวจะไปอยู่กับใคร พวกคุณทำมาหากินได้ ก็ไม่ใช่เพราะคุณยายหรือ
“ถ้าผมไม่มาช่วย จะให้ยายไปอยู่ไหน คุณยายประสงค์จะเอาที่ดินคืน ซึ่งทนายโนบิตะ หรือทนายกฤษฎา โลหิตดี จะดำเนินการให้ ส่วนคดีความ ท่านผู้กำกับจะเร่งให้เร็วขึ้น ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับผลกรรมแบบนั้น คำว่ากตัญญูเป็นบันไดขั้นสำคัญ ที่จะส่งให้ไปสู่คววามสำเร็จ ถ้าคำว่ากตัญญูทำไม่ได้ ก็จะไปต่อไม่ได้”
จากนั้น กัน จอมพลัง และทีมงาน พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ พมจ.พานางพิสมัย เดินทางกลับไปที่บ้านเช่า เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ และฝากเพื่อนบ้านให้ช่วยดูแลนางพิสมัย และทนายโนบิ รับปากว่าจะช่วยเหลือเรื่องฟ้องเรียกมรดกคืน เพราะรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น