รีวิว ทุเรียนไทย กับ ทุเรียนเวียดนาม ที่ส่งไปขายที่เบลเยี่ยม ราคาทุเรียนเวียดนามถูกกว่ากัน แต่ทุเรียนไทยขายดีกว่า พร้อมเผยจุดที่ทุเรียนไทยต้องพัฒนา ก่อนที่จะโดนทุเรียนเวียดนามตีแตก
ทุเรียนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาของผลไม้ และไม่เฉพาะแค่คนไทยที่ชื่นชอบการทานทุเรียน แต่คนต่างชาติก็ชื่นชอบเช่นกัน จนทำให้มีการส่งทุเรียนออกไปขายยังประเทศต่าง ๆ ซึ่งด้วยความที่ตลาดทุเรียนใหญ่ จึงทำให้ล่าสุด ได้มีทุเรียนเวียดนามเริ่มเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดไปแล้ว
ล่าสุด 11 กุมภาพันธ์ 2567 คุณ เพริศพิไลเพรา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้เผยว่า เธอเองปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศเบลเยี่ยม แต่ก่อนการจะหาทุเรียนกินที่นี่เป็นเรื่องที่ยากมาก ส่วนมากจะขายกันเป็นลูก ๆ และเป็นทุเรียนอ่อน แถมยังมีราคาแพง แต่ช่วง 10 ปีมานี้ การส่งขายทุเรียนมีการพัฒนามากขึ้น คนที่อยู่เมืองนอกมีโอกาสได้ทานทุเรียนเกรดเอ ที่คัดเป็นเกรดส่งออกแล้ว โดยจะเป็นทุเรียนที่แกะใส่กล่อง มองเห็นเนื้อทุเรียน และเลือกได้ความความต้องการ โดยทุเรียนที่ส่งออกนอกนั้น มีขายตลอดทั้งปี และคุณภาพดีมาก ๆ กลับไปเมืองไทยยังไม่ได้กินของที่มีคุณภาพขนาดนี้
และเนื่องจากทุเรียนไทยมีชื่อเสียง ฝรั่งชอบกินมากไม่ต่างจากคนไทย จึงมีชาติอื่น ๆ ที่ปลูกทุเรียนขายเช่นกัน โดยเฉพาะล่าสุดกับทุเรียนเวียดนาม ที่เจ้าของกระทู้ จะมารีวิวให้ฟังกัน
ทุเรียนไทย Vs. ทุเรียนเวียดนาม กับความแตกต่างด้านราคา รสชาติ กลิ่น สู้กันไหวไหม
ทุเรียนไทย พันธุ์หมอนทอง ยังมีส่งมาขายที่เบลเยี่ยมทุกอาทิตย์ 1 กล่องจะมีประมาณ 2 พลู ราคาปกติอยู่ที่ 24.95 ยูโร (ประมาณ 965 บาท) แต่หากอยู่นอกฤดูจะขายอยู่ที่ 29.65 ยูโร (ประมาณ 1,145 บาท) เนื้อจะกรอบนอกนุ่มใน หากเอานิ้วจิ้มดู เนื้อจะแข็ง ส่วนรสชาติจะหวานมัน อร่อยสุด ๆ โดยไม่มีรสขมเข้ามาปน กลิ่นไม่แรง พลูใหญ่ เม็ดเล็ก
ด้านทุเรียนเวียดนาม 1 กล่องจะมี 2 พลูเช่นกัน น้ำหนักแต่ละกล่องอยู่ที่ประมาณ 500 กรัม ขายกล่องละ 19.45 ยูโร (ประมาณ 753 บาท) เนื้อนิ่ม สีเหลืองเข้ม ส่วนรสชาติจะหวานแต่มีปนขมออกมาชัดเจน ซึ่งข้อนี้จะสู้ทีเรียนไทยไม่ได้ กลิ่นแรงกว่าทุเรียนไทย เมล็ดใหญ่กว่า และพลูจะเล็กกว่าทุเรียนไทย
ในขณะที่วางขายนั้น ทางร้านจะวางขายทุเรียนไทยกับทุเรียนเวียดนามคู่กัน แต่จะเป็นทุเรียนไทยที่ขายจนเกลี้ยง ทุเรียนเวียดนามที่เหลือเยอะตลอด
อย่างไรก็ตาม ได้มีคนบอกว่า เหตุที่ทุเรียนไทยอร่อยกว่า ดีกว่าทุเรียนที่อื่นชัดเจน อันเนื่องมาจากดิน อย่างของไทยทุเรียนต้องปลูกที่จันทบุรี ระยอง หากไปปลูกที่อื่นอาจจะสู้ไม่ได้ เคยมีความพยายามที่จะนำทุเรียนไปปลูกที่เชียงราย แต่รสชาติยังไม่ดี ถึงขนาดที่คนเชียงรายยังซื้อทุเรียนจากเมืองจันทบุรี ซึ่งทางเวียดนามและจีนก็มีความพยายามในการปลูกทุเรียนเช่นกัน แต่เนื่องจากดินไม่เหมือนกัน รสชาติเลยยังสู้ไม่ได้
คนชี้ ทุเรียนไทยอย่าติดกับดักว่าดี จนหยุดพัฒนา ผลไม้หลายอย่างของเวียดนาม อร่อยแซงไทยไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีคนมาบอกว่า จากภาพคาดว่าจะเป็นการเอาทุเรียนคนละสายพันธุ์มาเทียบกัน ทุเรียนเวียดนามน่าจะเป็นทุเรียนชะนี ส่วนทุเรียนไทยจะเป็นพันธุ์หมอนทอง ซึ่งจากในภาพ ทุเรียนเวียดนามเหมือนจะสุกกว่าทุเรียนไทย และทุเรียนชะนีก็มีรสขมและเม็ดใหญ่เหมือนกัน
อีกส่วนหนึ่งที่น่ากังวลคือ คนไทยจะมองว่าสินค้าของตัวเองดีที่สุด จนทำให้ขาดการพัฒนา และไม่ตามใจลูกค้าต่างประเทศ และทุเรียนสุก ๆ แบบของเวียดนามนั้น คนจีนหรือคนต่างชาติจะชอบกินมากกว่า และการที่บอกว่าทุเรียนเวียดนามเหลือเยอะกว่า อาจจะเป็นเพราะเอามาขายเยอะกว่าก็ได้ และความอร่อยบางทีก็ไม่เหมือนกัน โดยในบางประเทศ อาจจะชอบกินทุเรียนสุก ๆ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ จึงอาจเป็นเหตุให้ทุเรียนเวียดนามที่ส่งไป สุกกว่าทุเรียนไทยก็ได้
ด้านอีกคนเข้ามาบอกว่า เขาอาศัยอยู่ที่เวียดนามและกินทุเรียนบ่อย ต้องบอกเลยว่าทุเรียนเวียดนามอร่อยสู้ทุเรียนไทยไม่ได้ บางทีแม่ค้าทุเรียนเวียดนามยังโกหกว่าทุเรียนของเวียดนามเป็นของไทย แต่ถ้าผลไม้อื่น ๆ เช่น แก้วมังกร กล้วยหอม มะม่วงผลใหญ่ เวียดนามอร่อยกว่า ส้มโอและมังคุด อร่อยพอกัน ส่วนแตงโมไทยลูกใหญ่กว่า หวานกว่า ข้าวของเวียดนามอร่อยกว่า หอมนุ่มและแฉะ ส่วนมะขามไทยชนะขาด และผักเวียดนามชนะ เพราะสดกว่า อร่อยกว่า หลายชนิดมากกว่า