แอนนา เกลเมนต์ส คือหญิงสาวชาวอังกฤษที่ย้ายไปอยู่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน เธอทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการช่วยเหลือเหล่าสุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์ (Greyhound) หรือชื่อเรียกในภาษาสเปนว่า กัลโกส (Galgos) ในสมัยก่อน ขุนนางและชนชั้นสูงชาวยุโรปนิยมเลี้ยงสุนัขรูปร่างปราดเปรียวเหล่านี้เอาไว้ล่าสัตว์ และมันก็ยังคงเป็นสุนัขล่าสัตว์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันอีกด้วย โดยเฉพาะในประเทศสเปน ฤดูล่าสัตว์ของสเปนจะกินระยะเวลา 4 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ข้ามไปถึงเดือนกุมภาพันธ์
ในช่วงนี้ เหล่านักล่าที่เป็น กัลเกโรส (Galgueros- ผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์) จะออกมาล่าสัตว์กันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ ไก่ฟ้า ไก่ป่า ห่าน และกระต่าย โดยสุนัขเกรย์ฮาวด์คือผู้มีส่วนช่วยสำคัญในการล่า ทั้งการหลอกล่อ ไล่งับ และต้อนสัตว์ออกมาให้เจ้าของจัดการ
ทว่าเมื่อฤดูกาลล่าสัตว์สิ้นสุดลง เหล่าสุนัขเกรย์ฮาวด์ผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดีกับเจ้าของ กลับได้รับการตอบแทนที่โหดร้ายอย่างที่สุด เพราะเจ้าของเลี้ยงมันไว้ในระยะเวลาสั้น ๆ แค่เพื่อใช้ประโยชน์เท่านั้น เมื่อพวกเขาไม่ต้องการมัน สิ่งที่พวกเขาทำคือกำจัดมันทิ้ง และในแต่ละปีนั้น มีสุนัขเกรย์ฮาวด์ถูกทอดทิ้งในสเปนมากถึงครึ่งแสนตัว
เรื่องราวน่าสะเทือนใจนี้ถูกหยิบยกมารายงานโดยเว็บไซต์เดลี่เมลเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2562 โดยพบว่า กัลเกโรส (ผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในสเปนนั้นมีประมาณ 200,000 คน แต่ละคนมีสุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์หลายตัว มากสุดถึง 10 ตัว และในแต่ละปี หลังจากฤดูการล่าสัตว์เสร็จสิ้น ชะตากรรมแสนเศร้าของสุนัขเกรย์ฮาวด์ก็เริ่มต้นขึ้น ตูบตัวไหนที่ล่าสัตว์ได้ไม่เก่งก็จะถูกทำโทษ
ท้ายที่สุดทุกตัวก็จะถูกทอดทิ้งในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งปล่อยให้นอนรอวันตายอย่างทรมาน โดยในแต่ละปี มีสุนัขที่น่าสงสารล้มตายลงมากมายหลายพันตัว ความโหดร้ายนี้เป็นความลับดำมืดของสเปนที่นักท่องเที่ยวไม่เคยพบเห็น แต่มันเกิดขึ้นมานานมากแล้ว แอนนา พบเห็นความโหดร้ายนี้และพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง เธอและ อัลเบิร์ต สามีที่เป็นสัตวแพทย์ ได้ก่อตั้งมูลนิธิ SOS Galgos ขึ้นมา เพื่อเป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์ต่อต้านความโหดร้ายนี้และช่วยเหลือเหล่าสุนัขเกรย์ฮาวด์ที่ถูกทอดทิ้ง
แอนนาเล่าว่า สุนัขเกรย์ฮาวด์มากมายได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้าย พวกมันถูกขังเอาไว้ในห้องใต้ดินมืด ๆ และได้รับอาหารน้อยมาก เพราะเจ้าของต้องการให้มันหิวโหย จะได้มีความกระหายอยากล่าสัตว์มากกว่าปกติ หลังจากฤดูล่าสัตว์จบลง นักล่าก็ไม่สามารถล่าสัตว์ได้อีก เนื่องจากผิดกฎหมาย พวกเขาจึงไม่ต้องการสุนัขล่าสัตว์อีกต่อไป จึงเอาไปปล่อยทิ้ง หรือไม่ก็เอาไปมอบให้กับหน่วยกักกันสัตว์ที่พร้อมฆ่าพวกมันให้ตาย บางตัวตัวถูกโยนทิ้งให้ตายในบ่อน้ำ เช่นเดียวกับเจ้าตูบที่เพิ่งถูกช่วยเหลือมาเมื่อไม่นานมานี้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองโตเลโด เมืองเอกของแคว้นกัสติยา-ลามันชา ห่างจากกรุงมาดริดไปทางใต้ประมาณ 72 กิโลเมตร โดยผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาแถวบ่อน้ำแห่งหนึ่ง ได้ยินเสียงร้องครวญครางน่าสงสารของสุนัข เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบเห็นสุนัขนอนอยู่ในน้ำก้นบ่อที่ลึกมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เดินทางมาช่วยเหลือมัน พวกเขาโรยตัวลงไปก้นบ่อและผูกเชือกให้ดึงเจ้าเกรย์ฮาวด์ขึ้นไป
มันเป็นสุนัขเพศเมีย อยู่ในสภาพเลวร้ายมาก ขาดสารอาหารอย่างรุนแรง เนื้อตัวผอมโซจนเห็นกระดูก และมีรอยแผลบาดลึกที่บริเวณคอ มันได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และมีคนขอรับมันไปเลี้ยงแล้ว ตอนนี้มันมีความสุขอยู่ในบ้านใหม่อันแสนอบอุ่น ในฐานะสัตว์เลี้ยงแสนรัก ไม่ใช่เครื่องมือล่าสัตว์ที่พร้อมถูกเขี่ยทิ้ง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แอนนากับทีมงานได้ช่วยเหลือเจ้าตูบน่าเวทนามาเป็นจำนวนมาก ทั้งพามันไปรักษาอาการเจ็บป่วย ดูแลให้อาหารพวกมัน รวมทั้งหาบ้านใหม่ ให้พวกมันได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง ทว่าลำพังแค่การช่วยเหลือจากมูลนิธิของแอนนา และองค์กรอื่น ๆ อย่างเดียวมันไม่เพียงพอ ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานกันอย่างหนักแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือสุนัขได้หมดทุกตัว เพราะในแต่ละปี เมื่อนักล่าทิ้งสุนัขเกรย์ฮาวด์ไปแล้ว พวกเขาก็จะตามหาตัวใหม่ ๆ มาเลี้ยงเพิ่มเพื่อใช้ในฤดูล่าสัตว์ และทิ้งเพิ่มอีก วนไปแบบนี้ สุนัขจึงถูกทิ้งเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ ปัญหาจึงไม่มีที่สิ้นสุด
“กัลเกโรสเคยกำจัดเกรย์ฮาวด์ของพวกเขาด้วยการจับมันแขวนคอกับสะพาน แต่เดี๋ยวนี้พวกเขาไม่ทำแบบนั้นแล้ว เพราะไม่อยากสร้างภาพลักษณ์แย่ ๆ ให้กับตัวเอง พวกเขาแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นแทน ซึ่งเลวร้ายไม่แพ้กันค่ะ ทั้งเอาไปปล่อยตามปั๊มน้ำมัน ตามถนนที่มีรถวิ่งอยู่ตลอด ให้พวกมันถูกรถชนตายเอง รวมทั้งเอาไปผูกไว้กับรางรถไฟ กัลเกโรสบางคนถึงขั้นเอาสุนัขเหล่านี้ไปผูกติด ๆ กันบนทางรถไฟมากถึง 20 ตัว เพราะเมื่อรถไฟมา จะได้แล่นทับพวกมันจนตายไปพร้อม ๆ กัน”
“เกรย์ฮาวด์เป็นสุนัขที่น่ารัก พวกมันสุภาพ ว่าง่ายและไม่ดื้อรั้นเลยนะคะ แต่พวกมันกลับไม่เคยได้รับความรักกลับคืนมา จนทำให้พวกมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการใส่ใจและความรักคืออะไร เจ้าตูบมากมายที่รอดชีวิตมาได้ ต่างเจ็บปวดหวาดผวากับประสบการณ์ที่พวกมันได้รับ ทำให้เป็นเรื่องยากมากค่ะ ที่พวกมันจะเชื่อใจและไว้ใจมนุษย์อีกครั้ง” แอนนา กล่าว
แอนนากล่าวอีกว่า สิ่งที่มูลนิธิของเธอและองค์กรอื่น ๆ ทำ มันเป็นแค่การแก้ปัญหาปลายเหตุ ทางแก้เดียวที่จะได้ผลมากที่สุดคือ การออกกฎหมายห้ามใช้สุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์ในการล่าสัตว์ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการล่าสัตว์ในภูมิภาคนี้เป็นสิ่งปฏิบัติสืบกันต่อมาอย่างยาวนาน และเป็นที่นิยมอย่างมาก ผู้คนท้องถิ่นที่ไม่เห็นด้วยจึงไม่ค่อยกล้าออกมาพูดมากนัก รัฐบาลเองก็ไม่กล้ายื่นมือเข้ามาแก้ปัญหาด้วยเช่นกัน
และแม้ว่ากลุ่มนักล่าสัตว์จะเป็นเพียงประชากรส่วนน้อยของสเปน แต่พวกเขาเหล่านี้ก็สร้างปัญหาใหญ่หลวงที่ส่งผลกระทบต่อประเทศเป็นอย่างมาก และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้โรงเรียนต่าง ๆ ก็หันมาให้ความรู้กับเด็ก ๆ ในเรื่องสิทธิของสัตว์แล้ว ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคต ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น