เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสวัสดิการโดยรัฐ เปิดเผยว่า กรณีเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปีที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน ซึ่งตอนแรกการให้เงิน สนับสนุน 600 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น จะเป็นไปตามเส้นความยากจน ซึ่งมีประมาณ 4 ล้านกว่าคน ในขณะนี้ ได้รับเงินอุดหนุนอยู่ประมาณ 2 ล้านกว่าคน ก็จะปรับเปลี่ยนวิธีการให้เงินสนับสนุนเป็นแบบถ้วนหน้าเพื่อที่ว่าเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี ทุกคนในประเทศไทย จะได้รับเงินอุดหนุนจำนวนนี้
ส่วนกรณี เบี้ยผู้สูงอายุ จากที่ก่อนหน้านี้ มีการจ่ายแบบขั้นบันได คือ 600, 700, 800 และ 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะขอเป็นแบบถ้วนหน้า และจะปรับเป็น 1,000 บาททุกคน ดังนั้น พี่น้องผู้สูงอายุจากเดิมที่ได้แบบขั้นบันไดและไม่ถ้วนหน้า แต่จากนี้ไป จะได้เป็นเดือนละ 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า ทั้งนี้ เป็นการเห็นชอบของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งจะต้องนำเสนอเข้าคณะกรรมการใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
และสำหรับการปรับเบี้ยความพิการ ก็จะพิจารณาจาก 800 บาทต่อคนต่อเดือน เราปรับเป็น 1,000 บาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ช่วยคนพิการ จากที่เมื่อก่อนได้รับค่าตอบแทนชั่วโมงละ 50 บาท ตอนแรกคณะทำงานเสนอปรับจาก 50 บาท เป็น 80 บาทต่อชั่วโมง ซึ่งทางตนเองและที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าควรจะปรับขึ้นเป็น 100 บาทต่อชั่วโมง รวมถึงการจัดหาการบริการกายอุปกรณ์ให้กับคนพิการทุก ๆ คน
เบื่องต้นเป็นข้อสรุปทางคณะอนุกรรมการได้เห็นชอบเกี่ยวกับการดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ และผู้สูงอายุ เป็นการเห็นชอบของคณะอนุกรรมการที่ทางคณะทำงานนำเสนอมา ซึ่งขั้นตอนต่อไป คณะอนุกรรมการจะต้องนำเสนอข้อเสนอทั้งหมดที่เห็นชอบเข้าคณะกรรมการใหญ่ แล้วจะมีการดำเนินการต่อไปเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณและนโยบายต่างๆ ขอให้รอติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง