สาวสุดทน เจอเพื่อนบ้านกดชักโครกวันละเป็น 100 ครั้ง บุกโวยถึงที่ ก่อนอึ้งเมื่อเจอสภาพภายใน คนเช่าอยู่กว่า 20 คน ช็อกเจ้าของดัดแปลงเอง เปลี่ยนเป็นชุมชนเล็ก ๆ
การเก็บเงินซื้อบ้านเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญสำหรับหนุ่มสาวหลาย ๆ คน แต่มันคงกลายเป็นฝันร้ายหากสภาพแวดล้อมรอบ ๆ บ้านใหม่นั้น กลายเป็นปัญหาในการดำรงชีวิต สาวจีนรายหนึ่งก็ถึงกับหัวเสียเมื่อต้องเจอกับเพื่อนบ้านเจ้าปัญหา แม้จะเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่เพียงแค่สัปดาห์เดียวแต่ก็ทนไม่ไหวจนต้องบุกเคลียร์
โดยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่า เสี่ยวหลิว (นามสมมติ) เพิ่งจะซื้ออพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งเป็นของตัวเองจนได้ หลังทำงานเก็บเงินอยู่หลายปี รวมถึงได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัว แต่เนื่องจากพวกผู้ใหญ่แนะนำว่าเธอยังไม่ควรย้ายเข้าไปอยู่ทันทีหลังปรับปรุงเสร็จ เพราะยังอาจมีสารที่เป็นอันตรายหลงเหลืออยู่ในห้อง เธอจึงปล่อยห้องทิ้งไว้ครึ่งปีหลังทำการรีโนเวต
อย่างไรก็ตาม ในวันที่เสี่ยวหลิวย้ายไปอาศัยในอพาร์ตเมนต์นั้น กลับมีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้น นั่นคือเสียงกดชักโครกจากเพื่อนบ้านที่อยู่ชั้นบน ที่ดังไม่หยุดตลอดทั้งวัน จริงอยู่กว่าใน 1 วัน การจะกดชักโครกกว่า 10 ครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เพื่อนบ้านรายนี้กดชักโครกเป็น 100 ครั้งในแต่ละวัน เสียงชักโครกนั้นดังจนได้ยินไปทั่วไม่ว่าเธอจะอยู่จุดไหนของบ้าน ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ระเบียง หรือแม้แต่ในห้องครัว
ตอนแรกหญิงสาวก็นึกว่าแค่หูหลอนไป แต่ผ่านไป 1 สัปดาห์ เสียงกดชักโครกบ่อย ๆ ก็ยังไม่หายไป จนเธอเริ่มหัวเสีย ทนไม่ไหว ตัดสินใจขึ้นไปเจอกับเพื่อนบ้านชั้นบน
แต่คาดไม่ถึงว่าเมื่อเธอไปเคาะประตูห้องของเพื่อนบ้าน กลับพบว่าห้องดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 20 คน ในพื้นที่ขนาด 150 ตารางเมตร โดยภายในห้องถูกกั้นออกเป็นห้องนอนเล็ก ๆ มากมาย และมีเตียง 2 ชั้นวางอยู่หลายเตียง ในแต่ละห้องนอนเล็กนั้นยังมีห้องน้ำและเครื่องปรับอากาศติดตั้งไว้ เรียกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกมีครบ แม้พื้นที่จะคับแคบสุด ๆ
เสี่ยวหลิวอึ้งไปพักสักก็สอบถามข้อมูลจากผู้เช่าห้องดังกล่าว จนได้เบอร์เจ้าของห้องตัวจริง แต่เมื่อเธอโทรศัพท์ติดต่อไป เจ้าของห้องก็บอกแค่ว่า เขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่นั่น ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากห้องนี้ จึงลงมือดัดแปลงห้องด้วยตัวเอง และยืนยันว่าเรื่องนี้ก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้
สุดท้ายเมื่อการพูดคุยกับเจ้าของห้องไม่เกิดประโยชน์ เสี่ยวหลิวจึงไปร้องเรียนกับฝ่ายบริการจัดการอสังหาริมทรัพย์ และอยู่ระหว่างรอคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่รวมถึงเจ้าของบ้าน โดยหวังว่าเรื่องดังกล่าวจะได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่หากเธอต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นไปอีกหลายสิบปี ท่ามกลางสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งซื้อบ้านหลังนี้มา