วันที่ 2 มี.ค. 2567 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ร่วมกับ กสทช. และ ดีเอสไอ ในการลงพื้นที่ ตรวจสอบหาแหล่งที่ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเครือข่ายสนับสนุน
หลังพบต้นต่อมาฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (เกาะสน, เกาะสอง และ เกาะคู่) ตรงข้าม จ.ระนอง ของไทย โดยมีกลุ่มทุนให้การสนับสนุน จึงประสานการปฏิบัติสนธิกำลัง สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนนำมาสู่การจับกุมผู้กระทำผิดตั้งเสาสัญญาณเถื่อนพร้อมของกลาง
1. เสาสัญญาณเถื่อน บริเวณท่าเรือแห่งหนึ่ง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง 2. เสาสัญญาณเถื่อน ข้างร้านอาหารแห่งหนึ่ง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง 3. เสาสัญญาณเถื่อน บริเวณบ้านพกหลังหนึ่ง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง 4. แหล่งติดตั้งซิมบ็อกซ์ ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง 5. แหล่งจำหน่ายซิมผี ในพื้นที่ใกล้เคียงยึดซิมผีได้นับพันซิม ชุดจับกุมได้ทำการรื้อถอนอุปกรณ์และสืบสานหาผู้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี
สืบเนื่องจากการขยายผลในการปฎิบัติงานร่วมกันของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กสทช. และ ดีเอสไอ ประกอบกับการวิเคราะห์สัญญาณและข้อมูลการใช้โทรศัพท์คนร้าย พบว่ามีข้อมูลการเคลื่อนไหวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จาก ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (เกาะสน, เกาะสอง และ เกาะคู่) นำมาสู่การบูรณาการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกลุ่มทุนหนุนหลังที่คอยจัดเตรียมอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น กล่องบรรจุซิมอิเล็กทรอนิกส์ (Sim Box) และจัดหาซิมผี รวมทั้งจัดตั้งสถานีวิทยุคมนาคมเถื่อนเพื่อกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปสนับสนุนกลุ่มแก๊งเหล่านั้น
ต่อมาทาง กสทช. และผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเครือข่าย หนาแน่นในพื้นที่ตะเข็บชายแดนด้าน จ.ระนอง และประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ขยายผล และระดมเครื่องมือพิเศษ (Spectrum Analyzer) ลงไปตรวจวิเคราะห์หาแหล่งกระจายสัญญาณ แหล่งติดตั้งกล่องบรรจุซิมอิเล็กทรอนิกส์ (Sim Box) พบมีการลักลอบติดตั้งสถานีวิทยุคมนาคมเถื่อนจำนวนหลายแห่ง เพื่อกระจายสัญญาณข้ามไปยัง เกาะสอง เกาะสน และเกาะคู่ ประเทศเมียนมาร์
ในการนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งสถานีวิทยุเถื่อน กล่องบรรจุซิมอิเล็กทรอนิกส์ และซิมผี พร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มแก๊งเหล่านี้เข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้โดยง่าย
ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพื้นที่รับผิดชอบติดกับแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ติดตามจับกุมการกระทำผิดกฎหมายในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไป
