เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 2 มี.ค.67 พ.ต.อ.ไพฑูรย์ งามลาภ ผกก.1,พ.ต.ท.มงคล ออมทรัพย์ รองผกก.1สกส.บช.ปส.นำกำลังตรวจสอบตามการข่าวว่าจะมีขบวนการลำเลียงค้ายาเสพติดจากทางภาคอีสาน ลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ผ่านในพื้นที่และจะเข้ามาส่งในเขต จ.สุพรรณบุรี จึงเฝ้าติดตามหาข่าวและความเคลื่อนไหว
ขณะจะวางแผนเข้าจับกุมบริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เอเย่นต์ยาบ้าเกิดไหวตัวทันขับรถหลบหนี ตำรวจจึงได้นำกำลังไล่ตามจับกุม โดยเป็นรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 2ตช 1685 กทม. ขับหลบหนีไปตามเส้นทางสายอู่ยา เข้าสู่ถนนสายบ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี กระทั่งไปพุ่งต้นไม้ริมรั้วชาวบ้านในพื้นที่ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จนท้องรถติดค้างบนเนินดินไปต่อไม่ได้
จากนั้นคนร้าย 2 คน ทิ้งรถแล้วหลบหนีไป จึงได้ประสานตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี และ ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี สนธิกำลังร่วมกัน จนสามารถล้อมจับกุมได้ เป็นชาย 1 ราย ส่วนอีก 1 คนหลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบรถกระบะพบว่าบรรทุกยาบ้ามา 2.4 ล้านเม็ด
ต่อมา ตำรวจได้ติดตามคนร้ายที่ยังหลบหนีอยู่ จนทราบว่าได้ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน อ้างว่าถูกไล่ฟันมา ขอให้ไปส่งที่ห้างแห่งหนึ่ง ปรากฏว่า ชาวบ้านไม่ไปส่ง จากนั้น มีรถยนต์ปาเจโร่ ขับมารับบริเวณดังกล่าว ก่อนที่ตำรวจจะติดตามจับกุมได้ในที่พื้นที่ จ.สระบุรี
พล.ต.ต.วิปัสสนา บริการรักษ์ ผบก.สก.บช.ปส. เปิดเผยว่า สำหรับพฤติการณ์การจับกุม ตำรวจชุด ปส. ได้ติดตามเบาะแสขบวนการค้ายาบ้า จากการขยายผลทางภาคอีสาน ซึ่งได้ติดตามมาจาก จ.สกลนคร และจะมาส่งยาที่ จ.สุพรรณบุรี จอดรถพักยาในห้างสรรพสินค้า จากนั้นตำรวจชุด ปส.กำลังจะแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ผู้ต้องหาเกิดไหวตัวทัน จึงพยายามขับรถหลบหนี ตำรวจจึงได้ขับไล่ล่าตามเส้นทางจนมาจนมุมที่บริเวณเกิดเหตุ
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า มากัน 2 คัน มีรถดูต้นทาง โดยขนยาเสพติดมาจาก จ.สกลนคร นัดส่งมอบที่ จ.สุพรรณบุรี ได้ค่าจ้าง 5 หมื่นบาท ซึ่งตัวผู้ต้องหาก็รับสารภาพ ว่าทำมา 2 ครั้ง ส่วนติดการพนันหรือไม่ ยังไม่ได้ให้การ และไม่ได้บอกว่าต้องการนำเงินค่าจ้างไปให้ทำอะไร คาดว่าไปทำความรู้จักกับขบวนการค้ายา และได้ค่าจ้างดี ในครั้งแรก จึงตัดสินใจทำอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหารายนี้นั้นรับราชการเป็นครู ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ หรือไม่นั้น ขอตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนอีกครั้ง