จากกรณีีตำรวจปราบปรามยาเสพติดคุมตัวผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด 2.4 ล้านเม็ด มาสอบปากคำ โดยพลตำรวจโทคีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำตัวผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดสุรินทร์ และพวกอีก 1 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาขนยาบ้า 2.4 ล้านเม็ด จากสกลนครไปส่งให้เครือข่ายในสุพรรณบุรี มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขณะสอบปากคำผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวปฏิเสธที่จะพูดกับสื่อมวลชน โดยนั่งก้มหน้าร้องไห้เพราะเสียใจที่ต้องถูกดำเนินคดี
พลตำรวจโทคีรีศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนขยายผล เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าร่วมกับ พวกอีก 1 คน ลักลอบยาเสพติดมาจากภาคอีสานเข้ามาในพื้นที่ภาคกลาง โดยทำหน้าที่เป็นคนขับรถนำรถขนยาเสพติดเพื่อสำรวจด่านตรวจของตำรวจ โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รับการว่าจ้างก่อนมาถูกจับได้ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี และอ้างว่าตัวเองถูกบังคับข่มขู่ให้ขนยาเสพติดซ้ำ หากไม่ทำจะถูกตามล่าและเปิดโปงพฤติกรรมเนื่องจากเป็นคนมีตำแหน่งข้าราชการระดับสูง
และทราบว่าคนสั่งการเป็นเครือญาติของผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าว และเป็นอดีตข้าราชการ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในคดียาเสพติดเมื่อปี 2565 เป็นบุคคลที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดอยู่ระหว่างติดตามจับมาดำเนินคดี ส่วนสาเหตุก่อเหตุครั้งนี้
สำหรับผู้ต้องหาอีกคน รับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากผู้อำนวยการคนดังกล่าวขนยาเสพติดมาแล้ว 1 ครั้ง จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผู้ต้องหารายนี้ เคยถูกจับดำเนินคดี กรณีขับรถยนต์ลักลอบขนยาเสพติดจำนวน 11 ล้านเม็ด ก่อนพ้นโทษออกมาก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งตามกฎหมายแล้วผู้ที่เคยถูกดำเนินคดีแล้วออกมากระทำความผิดซ้ำ ศาลอาจจะพิจารณาเพิ่มโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา เช่นเดียวกับข้าราชการก็จะได้รับโทษหนักกว่าคนทั่วไป