ย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน 2021 อเล็กซานเดอร์ คุดรยาฟต์เซฟ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์พันธุศาสตร์ แห่งสถานบันวิทยาศาสตร์รัสเซีย และมีวาระดำรงตำแหน่งจนถึงปี 2027
แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์ถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยมีส่วนเชื่อมโยงกับคำแถลงการณ์ที่เคยเป็นกระแสให้ผู้คนถกเถียงกันเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ในระหว่างการประชุมวิทยาศาสตร์และเทววิทยานานาชาติครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “พระเจ้า-มนุษย์-โลก”
ในตอนนั้นเอง อเล็กซานเดอร์อ้างว่า ก่อนน้ำท่วมในพระคัมภีร์ไบเบิล มนุษย์เคยมีชีวิตอยู่ได้ถึง 900 ปี แต่อายุขัยของพวกเราก็สั้นลงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อันเนื่องมาจาก “บาปดั้งเดิม บาปจากบรรพบุรุษ และบาปส่วนตัว”
เขากล่าวต่อไปว่า บาปส่งผลกระทบต่อข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์ ทำให้พวกเราเสี่ยงต่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่เป็นลบมากขึ้น
“นี่คือการกลายพันธุ์ที่แพทย์ทางพันธุกรรมพบทุกวันเมื่อพวกเขาทำงานกับผู้ป่วย” อเล็กซานเดอร์กล่าว “นักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าจะบอกว่า มันเป็นผลมาจากรังสีหรือมลพิษ ที่ส่งผลต่อการกลายพันธุ์ แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่า ทุกอย่างเริ่มต้นมาจากบาปดั้งเดิม บาปของบรรพบุรุษ และบาปส่วนตัวด้วย”
นอกจากนั้น เขายังเตือนผู้ชมด้วยว่าอย่าทำบาป เนื่องจากมันอาจส่งผลกระทบไปถึงลูกหลานที่นานถึง 7 ชั่วอายุคน ซึ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ดังนั้นถ้าคุณอยากมีลูกหลานที่สุขภาพแข็งแรง จงอย่าทำบาป
อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ตำแหน่งของ อเล็กซานเดอร์ คุดรยาฟต์เซฟ คือผู้อำนวยการสถาบันพันธุศาสตร์อันทรงเกียรติ นั่นจึงทำให้คำพูดของเขากลายเป็นกระแสให้พูดถึงมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในชุมชนวิทยาศาสตร์ของรัสเซีย ที่ต่างออกมาประท้วงว่า เขาไม่เหมาะกับตำแหน่ง
หลังจากที่ถูกดราม่าถาโถมอย่างหนัก อเล็กซานเตอร์ต้องออกมาชี้แจงว่า คำพูดของเขาที่เกิดขึ้นระหว่างการประชุม เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลของเขาเอง และไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันที่เขากำลังดำรงตำแหน่งอยู่
จนกระทั่งไม่นานมานี้ อเล็กซานเดอร์ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยทางรัฐบาลรัสเซียก็ไม่ได้ระบุเหตุผลใด ๆ แต่ผู้คนเชื่อว่า สาเหตุมาจากความเชื่อส่วนบุคคลของเขาที่ขัดต่อวิทยาศาสตร์อย่างรุนแรง