เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 มีนาคม พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สภ.กันทรารมย์ ได้มี นางชัญญาพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 เข้ามาแจ้งว่า ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคนตาย ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ 11 บ้านเกาะแก้วสันติธรรม ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัว นางชัญญาพรรณ ไปสอบปากคำ และสั่งการให้ ร.ต.อ.เอกภูมิ พลศักดิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์เวร รพ.กันทรารมย์ ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบเป็นเป็นบ้านหรูสูง 2 ชั้น
ซึ่งเป็นบ้านของ นายกฤษณ์ อนุสินธิ์ หรือทนายป๋อง ทนายความความชั้นหนึ่ง จากการตรวจสอบภายในบ้านบริเวณชั้นล่าง หน้าห้องนอน พบศพ นายกฤษณ์ นอนเสียชีวิตจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าอก และกลางลำตัว รวม 3 แผล ใกล้กันพบมีดปลายแหลมตกอยู่ใกล้กับมือซ้ายของ นายกฤษณ์ และพบกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุอีก 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นางชัญญาพรรณ ทราบว่า ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประจำศาลแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ เป็นคนรู้จักกันกับ ทนายป๋อง ก่อนเกิดเหตุ นางชัญญาพรรณ ได้ขับรถมาหา ทนายป๋อง ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยขณะนั้นมี ทนายป๋อง อยู่บ้านคนเดียว และได้กดประตูรีโมทจากข้างในบ้านให้ นางชัญญาพรรณ เข้าไป เมื่อเข้าไปได้ไม่นาน ได้พูดคุยกันในเรื่องส่วนตัวและคุยกันไม่เข้าใจจึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทในเรื่องบางอย่าง ก่อนลั่นไกยิง 4 นัด แล้วเข้ามอบตัว ขณะที่ ภรรยาของผู้ตาย ระบุว่า ตนและสามี อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นชาย 1 หญิง 2 ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำงาน ส่วนสามีอยู่บ้านคนเดียว และไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ตนมารู้อีกทีตอนมีญาติโทรมาบอกว่าสามีถูกยิงเสียชีวิตที่บ้าน รู้สึกตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก
อีกทั้งตนก็ไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน ส่วนในด้านคดีตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ด้าน นางอรทัย อายุ 67 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังทราบข่าว ตนรู้สึกตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะ ทนายป๋อง เป็นทนายที่ดี เป็นคนตรงฉิน มีคนรักใคร่ให้ความเคารพมากมาย และไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับน้องชาย อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถึงที่สุด