วัยรุ่น 4 คน พักโรงแรม 3 เดือน ทิ้งความสยองเป็นของต่างหน้า ขนลุกตั้งแต่ประตู

  วันที่ 23 มีนาคม 2567 เว็บไซต์ ETtoday เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้บนโซเชียลมีเดียของจีนได้แชร์ภาพเหตุการณ์น่าขยะแขยงชวนขนลุก ภายในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ ภายหลังจากกลุ่มแขกที่มีพฤติกรรมสุดสกปรก มาเข้าพักเป็นเวลา 3 เดือน พวกเขาได้เปลี่ยนห้องพักของโรงแรม กลายเป็น “ห้องขยะ” ได้อย่างน่าตกใจ

          ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงแรมในเมืองฉางชา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 ราย เป็นชาย 2 รายและหญิง 2 ราย มาเข้าพักห้องมาตรฐาน โดยได้อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นเวลา 3 เดือน ในระหว่างนั้น พวกเขาไม่อนุญาตให้พนักงานโรงแรมเข้าไปทำความสะอาดแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าทางโรงแรมจะพยายามโน้มน้าวแต่ก็ไม่เป็นผล

   ในที่สุดทางโรงแรมจึงตัดสินใจใช้มาตรการบังคับให้ผู้เข้าพักทั้ง 4 คน ออกไปจากสถานที่ดังกล่าว พวกเขาจึงยอมเช็กเอาต์จากไป แต่ปรากฏว่าเมื่อทางพนักงานโรงแรมเข้าไปตรวจสอบห้องพัก กลับต้องพากันผงะแรง ตั้งแต่เริ่มเปิดประตูเข้าไป เนื่องจากทั้งสภาพห้องและกลิ่นด้านในชวนให้รู้สึกสะอิดสะเอียดจนแทบจะอาเจียนออกมา

       คลิปวิดีโอที่บันทึกเอาไว้ถูกนำมาเผยแพร่บนแฟลตฟอร์มออนไลน์ของจีน แสดงให้เห็นว่า ห้องพักมีสภาพเละเทะยับเยิน เต็มไปด้วยกองขยะอัดแน่นเป็นเนินเขา ทั้งกระดาษชำระ เสื้อผ้า เศษขยะสิ่งสกปรก ขวดน้ำ และถุงบรรจุอาหารที่กินเหลือ กองกระจายเกลื่อนจนแทบไม่มีที่ให้เดินเข้าไป บริเวณโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของข้างเตียง หรือแม้กระทั่งบนหัวเตียง ล้วนมีแต่ขวดเครื่องดื่ม และบะหมี่ถ้วยวางซ้อนกัน บางชิ้นหกคว่ำลงพื้นจนเป็นคราบโสโครก

  หลังจากนั้นทางพนักงานของโรงแรมได้ใช้เวลาในการทำความสะอาดอยู่นานกว่า 4-5 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังพบว่า ผ้าปูที่นอนและผ้าห่มถูกเผาเป็นรูหลายจุด ทางโรงแรมรู้สึกตกใจและประหลาดใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อทางผู้เข้าพักยังเป็นผู้เยาว์ “เราไม่ได้รับอนุญาตให้ทำความสะอาดโรงแรมตามปกติ แต่พวกเขาอยู่ในที่แบบนี้ได้อย่างไร”

          ต่อมา ทางโรงแรมจึงได้มีการติดต่อไปยังครอบครัวของพวกเขา เพื่อให้เห็นพฤติกรรมของลูกหลานตัวเองและแสดงความรับผิดชอบ หรือชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทว่าหลังจากทราบเรื่องแล้ว ทางผู้ปกครองของพวกเขาต่างพากันเพิกเฉย ไม่สนใจใด ๆ ทางโรงแรมจึงไม่ทางเลือกอื่น นอกจากถ่ายคลิปวิดีโอแชร์ไปบนโซเชียลมีเดีย โดยหวังว่าอย่างน้อย ๆ ครอบครัวก็ควรจะสั่งสอนให้บทเรียนกับพวกเขา