เบี้ยผู้สูงอายุ เป็นสวัสดิการที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปี ขึ้นไป เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ โดยในแต่ละปีจะมีการเปิดรับลงทะเบียนรายใหม่ให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติรับเบี้ยผู้สูงอายุ ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนถึงปีงบประมาณที่จะมีอายุครบ 60 ปี โดยผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน – 1 ตุลาคม ของปีนั้นๆ จึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้
เบี้ยผู้สูงอายุประจำปีงบประมาณ 2567 (เดือน ต.ค.66-ก.ย. 67) เปิดลงทะเบียนไปแล้วเมื่อเดือน ต.ค. 65-ก.ย. 66
หากใครเกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย. 2507 แต่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ต้องไปลงทะเบียนเพื่อรับเบี้ยผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือน ต.ค. 67-ก.ย. 68
โดยรัฐบาลโอนช่วยเหลือเบี้ยผู้สูงอายุทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากในเดือนนั้นๆ ตรงกับวันหยุดราชการ หรือเสาร์-อาทิตย์ จะทำการจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุด ตามปฏิทินดังนี้
เดือนมกราคม : วันพุธที่ 10 มกราคม 2567
เดือนกุมภาพันธ์ : วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
เดือนมีนาคม : วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567
เดือนเมษายน : วันพุธที่ 10 เมษายน 2567
เดือนพฤษภาคม : วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567
เดือนมิถุนายน : วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567
เดือนกรกฎาคม : วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567
เดือนสิงหาคม : วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2567
เดือนกันยายน : วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567
เดือนตุลาคม : วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567
เดือนพฤศจิกายน : วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567
เดือนธันวาคม : วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567
กรณีมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เคยลงทะเบียน
ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.-พ.ย. 66 และเดือน ม.ค.-ก.ย. 67 จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค. 67 เป็นต้นไป (ไม่มีจ่ายย้อนหลัง)
กรณีจะอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2568 (เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย. 2508)
ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.-พ.ย. 66 และเดือน ม.ค.-ก.ย. 67 จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุในเดือนถัดไปจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เช่น เกิดเดือน ม.ค. 68 จะได้รับเบี้ยยังชีพในเดือน ก.พ. 68 เป็นเดือนแรก
คุณสมบัติผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ 2568
1. สัญชาติไทย
2. มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และ ผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2508
3. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิ ประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ได้แก่
ผู้รับเงินบํานาญ เบี้ยหวัด บํานาญพิเศษหรือ เงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจํา หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจํา
หลักฐานประกอบการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
1.บัตรประจําตัวประชาชน หรือ บัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ ที่มีรูปถ่าย
2.ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
3.สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ในนามผู้มีสิทธิ/ผู้ได้รับมอบอํานาจ จากผู้มีสิทธิ (สําหรับกรณีประสงค์ รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร)
ในกรณีผู้สูงอายไม่สามารถมาลงทะเบียนด้วยตนเองได้ สามารถมอบอํานาจเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคําขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้*
สำหรับสถานที่ลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้ที่ สํานักงานเขต หรือองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่ผู้สูงอายุมีภูมิลําเนา
เบี้ยผู้สูงอายุ ได้เท่าไหร่?
สำหรับเบี้ยผู้สูงอายุจะจ่ายแบบขั้นบันไดดังนี้
อายุ 60- 69 ปี 600 บาท/เดือน
อายุ 70- 79 ปี 700 บาท/เดือน
อายุ 80- 89 ปี 800 บาท/เดือน
อายุ 90 ปีขึ้นไป 1,000 บาท/เดือน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 ก.พ.67 ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสวัสดิการโดยรัฐ ได้ออกมาเปิดเผยว่า พม.มีการชงจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุ ปรับเป็น 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า จากเดิมจ่ายให้แบบขั้นบันได ซึ่งอยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ขอให้รอฟังความชัดเจนอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมกิจการผู้สูงอายุ