ตร.บุกรวบ HR ใจมาร ไม่อยากให้ใช้ลาคลอด วางยาคนท้อง แอบใส่สารอันตรายให้ดื่ม

    วันที่ 31 มีนาคม 2567 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยรายงานเหตุการณ์น่าตกใจจากประเทศจีน ที่ได้จุดชนวนความไม่พอใจจนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์ เมื่อมีพนักงานขององค์กรของรัฐรายหนึ่ง ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุที่ไม่คาดคิด แอบวางยาพิษเพื่อนพนักงานที่กำลังตั้งครรภ์ ด้วยเหตุเพียงเพราะไม่ต้องการให้เธอลาคลอด  

           ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า เหตุเกิดขึ้นที่สำนักงานตรวจสอบทางอุทกวิทยาและทรัพยากรน้ำ ในเขตปกครองตนเองเอินชือ ของมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ในสังกัดของรัฐบาล ที่ขึ้นชื่อเรื่องกระบวนการสรรหาบุคลากรที่มีการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ต้องผ่านการสอบและการสัมภาษณ์ที่เข้มงวด เรียกกันว่าเป็นอาชีพที่มีการรับประกันความมั่นคงไปตลอดชีวิต
           อย่างไรก็ดี เมื่อเร็ว ๆ นี้บนโซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่ภาพจากคลิปวิดีโอ ที่ถูกแอบบันทึกภาพเอาไว้ได้ โดยแสดงให้เห็นว่า พนักงานรายหนึ่งของสำนักงานดังกล่าว สวมเสื้อคลุมสีแดงและเสื้อกั๊กสีดำเดินเข้ามาที่บริเวณใกล้กับโต๊ะของเพื่อนร่วมงานอีกราย ก่อนที่จะเปิดขวดเล็ก ๆ แล้วเทสารที่เป็นผงบางอย่างลงในเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ ก่อนจะรีบออกไป

           โดยเพื่อนร่วมงานที่ตกเป็นเหยื่อรายนี้ เป็นหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ก่อนหน้านี้ เธอเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ หลังจากสังเกตว่าเครื่องดื่มของเธอมีกลิ่นแปลก ๆ ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพราะน้ำประปาของทางสำนักงาน ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นดื่มน้ำจากขวดที่ซื้อมาเอง แต่กลิ่นแปลก ๆ นั้นก็ยังอยู่

  หลังจากนำเรื่องราวนี้ไปปรึกษากับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ก็ได้คำแนะนำแบบติดตลกมาว่าให้ลองตั้งกล้องแอบถ่ายดู เมื่อไม่มีหนทางที่จะหาคำตอบได้ ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจทำตามนั้น นำกล้องมาตั้งแอบเอาไว้ที่มุมโต๊ะทำงาน จนในที่สุดก็ทราบต้นตอสุดช็อก จึงได้รีบรวบรวมหลังฐานเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี

           เหตุผลเบื้องหลังการก่อเหตุครั้งนี้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างน่าประหลาดใจ เป็นเพราะพนักงานหญิงผู้เห็นแก่ตัวรายนี้ ไม่ต้องการให้เพื่อนพนักงานที่ตั้งครรภ์ลาคลอด มิเช่นนั้นแล้วภาระในการทำงานจะต้องตกมาอยู่ในความรับผิดชอบของเธอคนเดียว โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม

           ภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาบนสื่อออนไลน์ ผู้คนต่างพากันโกรธแค้น เข้าไปประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง “วางยาพิษใครบางคน เพียงเพราะคุณไม่อยากให้พวกเขาลา ? เธอดูละครมากเกินไปหรือเปล่า ?”, “เป็นเพื่อนร่วมงานที่น่ากลัวมาก จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต”, “ทำไมถึงต้องคิดร้ายขนาดนี้ ? โลกของเธอมืดมนเกินไป”, “เป็นพฤติกรรมที่อันตรายมาก และที่น่ากลัวคือมีคนเช่นนี้อยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยที่เราไม่รู้ตัวและไม่ทันระวัง”  

           ในขณะเดียวกัน มีทนายความรายหนึ่งเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า หากการกระทำของผู้หญิงรายดังกล่าวพิสูจน์ได้ว่ามีเจตนาร้ายจริง อาจถือเป็นความผิดทางอาญาโทษฐานทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต ไม่ว่าสารนั้นจะเป็นพิษหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือไม่