จากกรณีของป้าปูนากับจ๊ักบุ๋ม ได้จบไปแล้ว แต่กลับมีประเด็นใหม่เกี่ยวกับป้าปูนา ถูกแฉโกงเงิน-ทำร้ายเด็ก ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 67 เพจ โหนกระแส ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เคลียร์หมด แม่ปูนาโดนพาดพิง โกงคนอื่นเขามาเหมือนกัน ถึงกับเปิดหน้าโชว์ ไล่เคลียร์เรียงคน ใครโฟนอินเข้ามา เจ้าตัวบอกไขข้อครหาได้หมด จากกรณี แม่ปูนา
คู่กรณีของจั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม มาออกรายการโหนกระแส แล้วได้รับความเห็นใจ มีคนมาช่วยเหลือทางการเงิน เงินทุนต่างๆ และมีกัน จอมพลัง เข้ามาช่วย จะพาแม่ปูนาไปดำเนินคดีแจ้งความ เพื่อติดตามเอาเงินคืนให้ได้ ล่าสุดในหลายเพจทางโซเชียล มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลอีกด้าน อ้างว่า แม่ปูนาเอง ก็เคยมีกรณีการโกงเงินผู้เสียหายคนอื่นๆ
เหมือนกัน จนกลายเป็นเรื่องร้อนกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้มีคนดูรายการโหนกระแสไปจับประเด็นเอ๊ะในรายการโหนกระแสเมื่อสองวันก่อน ที่หนุ่ม กรรชัย บอกว่า แม่ปูนาเคยมาออกรายการโหนกระแสเมื่อหลายปีก่อน แต่แม่ปูนาบอกว่า เรื่องนี้ขอไม่พูดดีกว่า ทำให้คนดูสงสัยว่าคือเรื่องอะไร ทำไมต้องขอไม่พูด และทำไมเป็นผู้เสียหาย
ต้องใส่แมสก์ปิดหน้าด้วย แม่ปูนา ย้อนเล่าเรื่องราวที่เคยมาออกรายการโหนกระแส เป็นเรื่องเมื่อปี 2561 ลูกเราซึ่งเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ถูกรุ่นพี่นักกีฬาทำร้ายร่างกายในโรงเรียน โดยโรงเรียนบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ เราสู้เรื่องนี้มาจนลูกป่วยซึมเศร้า ต้องรับยาจิตเวชมาทาน
ขณะที่แม่ก็ต้องเทคยาเหมือนกัน ป่วยทั้งแม่ทั้งลูก สาเหตุที่เราขอร้องพี่หนุ่ม กรรชัย เมื่อวันก่อน ว่าไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ เพราะมันเป็นบาดแผลในใจเรามานาน ไม่อยากให้มีคนมาขุดคุ้ย หรือไปตามหาว่าเป็นโรงเรียนไหน มันกระทบกับนักเรียนคนอื่นๆ ถามว่าทำไมแม่ต้องใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ทั้งที่เป็นผู้เสียหาย แม่ปูนาบอกว่า แม่ป่วยเป็นหอบหืด, ไทรอยด์เป็นพิษ และโรคประจำตัวอีกหลายโรค กลิ่นน้ำหอม หรือกลิ่นอะไรต่างๆ ที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เราก็ต้องระวังตัว ต่อมา คุณปอ ดวงลักษณ์ หนึ่งในผู้ผลิตรายย่อย ที่เคยทำน้ำปู กระดองปู ส่งให้แม่ปูนาขาย บอกว่าปัจจุบันได้รับเงินจากแม่ปูนาหมดแล้ว แต่บรรดาเพื่อนพ้องชาวบ้านที่ลงทุนทำของ ทำอะไรไปเยอะ เขาไม่ได้เงินจากแม่ปูนา มาทวงเอาเงินจากเรา เพราะติดต่อแม่ปูนาไม่ได้ ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุยังไง ทักไปทางช่องทางไหนก็ไม่ได้ พอเพื่อนๆที่ร่วมลงทุนเขาติดต่อไม่ได้ ก็บอกให้เราไปแจ้งความ แต่เราไม่ได้แจ้ง เพราะเคยซื้อขายกับเขา มั่นใจในตัวเขาอยู่แล้ว แต่ทางชาวบ้านก็มาทวง มาเค้นเอาจากตน ก็ไม่รู้จะไปทำยังไงต่อ
ชาวบ้านเขาลงทุนซื้อหม้อ-กระทะ อะไรไปเยอะ มีน้ำปูค้างอยู่ 200 กว่ากิโล แต่แม่ปูนาเขาไม่รับแล้ว มันทำให้ชาวบ้านเขาก็รู้สึกว่าเสียหาย เพราะตอนแรกตั้งใจจะผลิตส่งให้แม่ปูนา แต่พอแม่ปูนาเขามีปัญหาไม่รับแล้ว ทีนี้ชาวบ้านก็เคว้ง ไม่รู้จะไปขายที่ไหน ตอนแรกแม่ปูนาบอกเราว่าเขารับเรื่อยๆ รับเป็นตัน แต่ทางชาวบ้านเขาทุนน้อย ส่งไปก็อยากได้ทุนกลับมาหมุนต่อ เขาบอกว่าถ้ามีเท่าไหร่ก็ให้ส่งมาเรื่อยๆได้เลย แต่เขาก็เคยบอกว่า ถ้าเขาออกบูทไปหลายสัปดาห์ จะติดต่อเขาไม่ได้นะ แต่ทางชาวบ้านพอติดต่อไม่ได้ มีชาวบ้านคนหนึ่งเข้าโรงพยาบาล ประสบอุบัติเหตุกะทันหัน ต้องการใช้เงิน เขาก็กังวล ก็มาทวงกับตน ตนก็เลยต้องไปทวงจากเขา ปรากฏว่าเขาตอบมาแบบหยาบคาย บอกว่าไม่ต้องมาค้าขายกันอีก เราก็งงว่าทำไมไม่พูดกันดีๆ ว่ามีปัญหาอะไร ขณะที่แม่ปูนาเล่าในมุมตัวเองว่า
ดวงลักษณ์ค้าขายกับเรามาช่วงใหญ่ๆ จนเขามาถามเราว่า ชาวบ้านอยากทำด้วยได้ไหม เราก็บอกว่าเอาสิ ใครทำได้ก็ชักชวนมาทำ แต่พอมาช่วงหนึ่งเราล้มป่วยไป ทีมงานแอดมินที่ดูแลเพจเราเขาอาศัยช่วงเราป่วยโกงเงินลูกค้าเรา เอาบัญชีส่วนตัวมารับเงินลูกค้า แทนที่จะเป็นบัญชีร้าน พอเราหายป่วยก็มาไล่แก้ปัญหาต่างๆ จ่ายค่าของที่ค้างอยู่จนครบ แต่ปัญหาเรื่อง 200 กิโลกรัม เราไม่ได้สั่งระบุว่า 200 กิโล เราบอกว่าเรารับเรื่อยๆ มีเท่าไหร่ก็ส่งมา ทุกวันนี้ก็ยังรับอยู่ แต่เคสที่มันมีปัญหาเนี่ย เราต้องชี้แจงว่า เป็นช่วงที่เราป่วยเข้าโรงพยาบาล มีคนรับสายแทนเรา ปรากฏว่าตี 4 ตี 5 เขาก็ทวงเงินมาจนเด็กเราไม่ไหว มาทวงกับเรา พอเราเห็นแบบนี้ก็เลยบอกเขาว่า ถ้าคุยภาษาคนกันไม่รู้เรื่อง ก็เลิกค้าขายกันเถอะ ขณะที่ทนายเจมส์ บอกว่า การสั่งซื้ออะไรลักษณะนี้ ถ้าไม่มีแชต ไม่มีหลักฐานการสั่ง ไม่มีใบ PO แบบนี้การจะไปฟ้อง ไปกล่าวหาว่าสั่งของแล้วไม่รับ ก็จะยากแล้ว ซึ่งพฤติการร์ต่างๆ มันยังไม่ถือว่าเข้าข่ายโกง สุดท้ายแม่ปูนาบอกว่า
หลังจากนี้ ถ้ามีเท่าไหร่ก็ส่งมาทดสอบได้เลย ถ้าได้มาตรฐานก็รับซื้อหมด กิโลละ 400 บาท มีอยู่ร่วมๆ 200 กิโล ยอดราวๆ 8 หมื่นบาท โดยกัน จอมพลัง จะให้ทีมงานมาเป็นคนกลาง เพื่อให้สองฝ่ายสบายใจว่าจะทดสอบอย่างเป็นธรรมจริงๆ ส่วนที่คุณปอ ดวงลักษณ์ ไปให้ข้อมูลว่าแม่ปูนาเป็นคนโกง เพราะเราโพสต์ไป แล้วมีคนมาคอมเมนต์บอกว่าแม่ปูนารับปูไปแล้วไม่จ่ายเงิน แต่เขาลบไปแล้ว ไม่ได้แคปไว้ อ่านผ่านๆ ต่อมามีคุณชัชวาลย์ ที่เคยค้าขายกับแม่ปูนา โฟนอินเข้ามายืนยันว่า เคยค้าขายกับแม่ปูนา ไม่เคยมีปัญหาเลย ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้ง ส่งของก็ได้เงินตามปกติ ยืนยันว่าตนไม่เคยโดนโกง ส่วนกรณีของคนชื่อ นิคม บอกว่า เคยส่งมันปูให้แม่ปูนา ส่งกันมาตลอดไม่มีปัญหา จนมาครั้งล่าสุด เขาส่งของมาไม่ได้คุณภาพ เราจึงปฏิเสธการรับ เขาโทษว่าเป็นความผิดของขนส่ง ให้เราไปตามเอาค่าเสียหายจากขนส่งเอง เราก็ไปตาม ขึ้นโรงพัก ได้เงินชดเชยจากขนส่งมา แต่ก็ขาดทุนไป 2 หมื่นกว่าบาท
ซึ่งทางรายการพยายามติดต่อคุณนิคม แต่เขาไม่รับสาย ต่อมามีอีกคนชื่อคุณปลา โฟนอินเข้ามา บอกว่าป้าปูนามีพฤติกรรมแปลกๆ ในเรื่องการรับจ้างเลี้ยงเด็ก เพราะเวลามีคนประกาศรับเลี้ยงเด็ก ป้าปูนาจะทักหาแม่เด็ก บอกว่าเขารับเลี้ยงถูกกว่า แถมไปรับไปส่งเด็กได้ และอยู่ใกล้กว่า ทั้งที่แม่เด็กอยู่สวนหลวง แต่แม่ปูนาอยู่พระราม 2 จะไปใกล้ได้ยังไง เรามองว่ามีพฤติกรรมแปลกๆ จึงคุยกันในกลุ่มคนรับเลี้ยงเด็กว่าป้ามีพฤติกรรมไม่น่าวางใจ ควรไปโพสต์เตือนบรรดาแม่ๆ ปรากฏว่าแม่ปูนาไปแคปข้อความที่เราไปโพสต์เตือน เอาไปแจ้งความ เรียกค่าเสียหายจากคนที่คอมเมนต์ มีปัญหากับใครก็แคปเก่ง ฟ้องเก่ง อยากให้สังคมช่วยตัดสินว่ามันถูกหรือผิด ขณะที่แม่ปูนาบอกว่า แม่เด็กคนนี้เป็นชาว สปป.ลาว มีเงินแค่ 3 พันบาท เราเห็นว่าเขาเดือดร้อน เราก็ยินดีรับเลี้ยงให้ ที่ผ่านมาเคยมีประวัติเลี้ยงฟรีก็เคยทำมาแล้ว ถ้าพ่อแม่เขาเดือดร้อน เราดูแลให้ได้หมด เลี้ยงทีละคน
แต่ปรากฏว่า มีคนกลุ่มหนึ่งเอาเฟซบุ๊กป้าไปโพสต์ บอกให้ระวังเฟซบุ๊กนี้นะ มันแปลกๆ ไหม เราก็เลยเอาไปแจ้งความ แต่ไม่มีการไปเรียกเงิน ไปไล่เลขคดีดูก็ได้ แต่คุณปลาบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ป้ารู้อยู่แก่ใจ ให้ผู้ชมทางบ้านตัดสินกันเอาเอง คนปกติที่ไหนจะอยากขึ้นโรงพักไปแจ้งความได้ไม่เว้นแต่ละวัน ขณะที่ สาวอีกคนคือ มอ เป็นแม่เด็กที่เคยเอาลูกมาฝากแม่ปูนาเลี้ยง ตอนแรกแม่ปูนาจะเลี้ยงให้ฟรี เขาเป็นคนที่ดูมีพระคุณกับตนก็จริง แต่ตนก็เกรงใจ ก็เลยโอนเงินไปให้เขา แต่เขาก็ชอบมาพูดกับตนแรงๆ เข้าใจว่าเขาอยากจะสอน แต่ด่าตนแต่ละเรื่องตนรับไม่ได้ ขณะที่แม่ปูนา บอกว่า ตอนแรกเราจะเลี้ยงลูกให้เขาฟรีๆ แต่เขาทิ้งลูกไว้ แล้วไปนอนกับผู้ชาย ไม่สนใจ ไม่เอาเงินมาดูแลลูก เราก็เลยบอกว่า เราจะไม่เลี้ยงฟรีให้แล้ว แล้วยอมรับว่าโพสต์ว่าเขารุนแรงจริง ว่าผู้หญิงหากินไปนอนกับผู้ชายยังได้เงิน แต่บางคนนอนกับผู้ชาย เงินก็ไม่ได้เอามาเลี้ยงลูกด้วยซ้ำ ยอมรับว่าพูดแรง แต่อยากจะสั่งสอนเขา สุดท้ายแม่ปูนาบอกว่า ถือว่าวันนี้ตนได้พูด ได้เคลียร์ตัวเองทุกเรื่อง ไม่ได้ทำให้ใครที่คอยช่วยเหลือเราต้องผิดหวัง และขอยืนยันว่า หลังจากนี้ ถ้ามีใครมีปัญหา หรือคิดว่าถูกแม่ปูนาโกง ก็ติดต่อมาได้เลย พร้อมเคลียร์ทุกเรื่องจริงๆ
