หนุ่มเงินเดือน 2.5 แสน ชีวิตพลิกข้ามคืน ป่วยหนัก-ตกงาน เปิดใจเล่าสาเหตุพร้อมเตือน ทั้งน้ำตา

     สุขภาพที่ดี ต่อให้มีเงินทองมากแค่ไหนก็หาซื้อไม่ได้ และบางคนกว่าจะรู้ซึ้งถึงเรื่องนี้ก็สายเกินไป ดังเช่นหนุ่มจีนวัย 31 ปี ซึ่งโหมทำงานหนักจนมีรายได้เดือนละกว่า 50,000 หยวน (ราว 250,000 บาท) แต่ชีวิตกลับพลิกผันในชั่วข้ามคืน ต้องตกงานและกลายเป็นอัมพาตบางส่วน หลังเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบ ซึ่งในตอนนี้เขาได้ออกมาบอกเล่าเรื่องอุทาหรณ์ พร้อมเผยพฤติกรรมแย่ ๆ ที่ผ่านมาซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพ

          วันที่ 2 มีนาคม 2567 เว็บไซต์ HK01 รายงานว่า ชายรายดังกล่าวได้ทำคลิปบอกเล่าเส้นทางสู้โรคร้ายของตัวเอง ผ่านเว็บไซต์เสี่ยวหงชู ตั้งแต่จุดที่เขาป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ทำให้ต้องกลายเป็นคนว่างงาน ต้องใช้เวลาหลายปีในการฟื้นฟูตัวเอง กระทั่งตอนนี้สามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้ง

    เขาเผยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 7 มิถุนายน 2561 ขณะที่เขาอายุ 31 ปี อยู่ ๆ ร่างกายก็เริ่มแสดงอาการผิดปกติ โดยเขาตื่นขึ้นมาพบว่าใบหน้าซีกซ้ายเป็นอัมพาต ไม่สามารถควบคุมแขนและขาซ้ายได้ ตลอดจนมีอาการพูดไม่ชัดลิ้นแข็ง ในตอนนั้นเขาลองใช้โทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปการแสดงสีหน้าของตัวเองไว้ จนเห็นว่าใบหน้าซีกซ้ายไม่สามารถแสดงสีหน้าใด ๆ ได้เลย

          ขณะเดียวกันเขายังเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวและอ่อนแรง ลืมตาแทบจะไม่ขึ้น ก่อนที่จะสลบไปและตื่นขึ้นมาอีกครั้งบนเตียงโรงพยาบาล หลังอยู่ในภาวะโคม่านาน 3 วัน โดยเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบหรืออุดตัน และเป็นอัมพาตครึ่งซีก

   สำหรับโรคหลอดเลือดสมองของเขาเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ไม่ดีหลายอย่าง ในอดีตเขาเป็นคนยึดติดกับการทำงานหนักตั้งแต่เด็ก หลังเรียนจบก็มุ่งมั่นทำงานหนักมานาน 10 ปี จนมีรายได้กว่า 50,000 หยวนต่อเดือน แต่เพราะภาระงานที่หนักหน่วงทำให้เขาไม่มีเวลาพักผ่อน นอกจากต้องทำงานในวันสุดสัปดาห์แล้ว ในช่วง 3 เดือนก่อนมีอาการ เขาได้นอนเพียงวันละ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น ในจุดหนึ่งเขายังรู้สึกเหมือนตัวเองเหนื่อยจนเกือบตาย แต่ก็ไม่คิดว่าสุดท้ายจะนอนหลับนานไป และตื่นมาเจอตัวเองกลายเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่อายุน้อยสุดในโรงพยาบาล

          เขาเผยในคลิปของตัวเองว่า “เคยหาเงินได้เดือนละ 50,000 หยวน แต่ต้องหมดสิ้นในชั่วข้ามคืน” ที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากอาการป่วยทำให้เขาไม่สามารถทำงานได้อีก ต้องกลับมาให้แม่และภรรยาช่วยดูแล เขาหมดสิ้นรายได้ แถมยังต้องไปโรงพยาบาลทุกวันเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ทำการฝังเข็ม และกายภาพบำบัด ภาระค่ารักษาพยาบาลมหาศาลในช่วงที่กลายเป็นคนว่างงาน ทำให้เขาตกที่นั่งลำบาก

     การเจ็บป่วยครั้งนี้ทำให้เขาเหมือนเกิดใหม่ ต้องหัดพูดและหัดเดินเหมือนทารก แต่เขาก็ไม่เคยหมดหวัง เขายังมุ่งมั่นในการรักษา กระทั่งเวลาผ่านมา 6 ปี ในที่สุดเขาก็สามารถฝ่าฟันโชคชะตา ไม่เพียงแค่ค่อย ๆ ฟื้นฟูร่างกายและแขนขาได้ แต่เขายังเริ่มกลับมาทำงานได้แล้ว  

          เรื่องราวของชายคนนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย และกลายเป็นเหตุเตือนใจให้ย้อนดูตัวเอง กับพฤติกรรมที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขฮ่องกง เผยว่าหากต้องการลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง ก็ควรรับประทานอาหารที่สมดุล พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจร่างกายอย่างน้อยทุก 2 ปี


          ทั้งนี้ หากพบว่ามีสัญญาณเตือนต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

          1. พูดติดขัด ออกเสียงลำบาก

          2. แขนขาหรือซีกหน้าเป็นอัมพาต หรืออ่อนแรง

          3. ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด

          4. สูญเสียการทรงตัว มือเท้าไม่ประสานกัน หรือล้มกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ

          5. ปวดศีรษะรุนแรงเฉียบพลัน