เปิดสาเหตุ ฮ.บินได้ 3 นาที ต้องพา ตร.โดนสาวขับรถชน ลงด่วน เผยอาการล่าสุด

เปิดสาเหตุ ฮ.บินได้ 3 นาที ต้องพา ตร.โดนสาวขับรถชน ลงด่วน ทีมแพทย์พบชีพจรตกกะทันหัน ความดันไม่คงที่ ต้องส่ง รพ.พระนารายณ์มหาราช เผยอาการล่าสุด

กรณี ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ ผบ.ส.ทล.3 กก.1บก.ทล. ถูกสาวขับรถเก๋ง พุ่งชน ร่างกระเด็นลอย 10 เมตร จนบาดเจ็บสาหัส ขณะอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอยู่ที่หมู่ 4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

ต่อมาเวลา 22.00 น. โรงพยาบาลตำรวจ นำเฮลิคอปเตอร์มารับ ด.ต.ปิยนันท์ ที่โรงพยาบาลพัฒนานิคม ไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลตำรวจ

แต่ขณะนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินได้เพียง 3 นาที ต้องพากลับมาที่โรงพยาบาลพัฒนานิคมอีกครั้ง เนื่องจากอาการของ ด.ต.ปิยนันท์ ไม่สู้ดีนัก

ความคืบหน้าวันที่ 17 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทีมแพทย์ นำ ด.ต.ปิยนันท์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ได้ประมาณ 3 นาที นักบินได้ประสานกลับลงมายังภาคพื้น เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์ กลับมาลงจอด ณ จุดเดิม

โดยได้รับแจ้ง จากทีมแพทย์ที่ดูแลอยู่บนเครื่องว่า ชีพจรของ ด.ต.ปิยนันท์ ตกอย่างกะทันหัน ความดันไม่คงที เนื่องจากความกดอากาศ คนไข้อยู่ในอาการวิกฤติ ไม่สามารถนำไปต่อได้ จึงให้รถพยาบาล มารับออกจากเฮลิคอปเตอร์ นำไปยังโรงพยาบาลพัฒนานิคม เหมือนเดิม

ซึ่งหลังทีมแพทย์ประเมินแล้ว จึงขอส่งต่อ ด.ต.ปิยนันท์ ด้วยการเคลื่อนย้ายทางรถยนต์ ไปยัง โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช อ.เมืองลพบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดขนาดใหญ่ อยู่ห่างไปราว 50 กว่ากิโลเมตร มีเครื่องไม้เครื่องมือ และบุคคลากรทางการแพทย์พร้อมมากกว่า

โดยระหว่างการเคลื่อนย้าย ตำรวจทางหลวงลพบุรี ได้วิทยุประสานขอความร่วมมือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รวมถึงมูลนิธิต่างๆ ทั้ง ร่วมกตัญญู และ ปอเต็กตึ้ง ที่มีรถสัญญาไฟฉุกเฉิน ช่วยอำนวยความสะดวกในการปิดเส้นทางการจราจรเป็นการชั่วคราว ในขณะที่รถ Ambulance ทำการเคลื่อนย้าย เพื่อส่งต่อคนเจ็บเป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

เบื้องต้น ทีมแพทย์ประเมินว่า ด.ต.ปิยนันท์ เสียเลือดมาก และมีภาวะสมองบวม ถือเป็นอาการที่มีความรุนแรงมาก หากไม่รับการรักษาอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หรือหากรับการรักษาช้าเกินไป ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวตามมา ต้องได้รับการผ่าตัดเป็นการด่วน

เบื้องต้นได้ให้ยากระตุ้น เพื่อให้ชีพจร และ ความดันกลับมาคงที่ แต่ต้องดูอาการหลังการผ่าตัดอีกครั้ง และยังคงต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่พ้นขีดอันตราย โดยมีญาติและครอบครัว ผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานส่งกำลังใจให้พ้นวิกฤต