ข้อสรุป ผีฮ่องกง ร้านไล่กล้องพิสูจน์วิญญาณ – เปิดภาพลองปรับแสง ชัดเลยผีหรือคน

  จากเรื่องราวชวนขนลุกที่คนไทยติดตามอย่างจดจ่อ กับ ผีฮ่องกง หลังจาก คุณแอนตี้ จากช่อง ANNDAY เที่ยวไปวันวัน เผยภาพที่ตัวเองยืนถ่ายเซลฟี่ผ่านกระจกหน้าผับแห่งหนึ่ง แต่กลับปรากฏภาพของหญิงปริศนา ใบหน้าซีด มายืนเกาะไหล่ ซึ่งเธอยืนยันว่าตอนถ่ายไม่มีใคร พร้อมเผยไทม์ไลน์ของรูปของเธอและคนในกลุ่ม ก็ไม่พบในเวลาดังกล่าวก็ไม่มีรูปไหนที่ถ่ายติดภาพหญิงสาวปริศนาคนนี้ด้วยนั้น

  เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 17 เมษายน 2567 หลังจากเรื่องราวนี้กลายเป็นไวรัลในไทย ปรากฏว่าร้าน The Parallel ผับฮ่องกงที่อยู่ในภาพดังกล่าว โพสต์ผ่านไอจีสตอรี่ว่ากำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านอยู่ จนสร้างความสนใจให้กับคนไทยที่ต้องการรู้ความจริงเบื้องหลังภาพหลอนนี้เป็นจำนวนมาก

          อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ร้านยังไม่มีการนำภาพวงจรปิดบริเวณหน้าร้านมาเปิดเผย ทำให้ชาวเน็ตไทยต่างอารมณ์ค้างสุด ๆ จนล่าสุดร้านได้ชี้แจงว่า กำลังเดินหน้ากู้ไฟล์เมื่อสองเดือนก่อนอย่างเต็มที่ แต่มันต้องใช้เวลา เพราะขั้นตอนทางเทคนิคเพื่อกู้คืนเซอร์เวอร์ แถมคนทำงานก็ยังมีน้อย แต่ละคนก็มีหน้าที่ของตัวเองต้องทำด้วย วอนช่วยเข้าใจ และหวังว่าจะหาคำตอบของเรื่องนี้มาให้ทุกคนได้เร็ว ๆ นี้

ล่าสุด (18 เมษายน) นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant โพสต์ภาพ ผีฮ่องกง ที่กำลังเป็นไวรัล ก่อนจะนำไปปรับแสงแล้ววิเคราะห์ว่า “แค่ปรับแสงให้สว่างเท่านั้น จากผีก็กลายเป็นคน”

          โดยที่ในภาพปรับแสงนั้น จะเห็นได้ชัดว่าเป็นภาพของหญิงสาวใส่เสื้อแดง กางเกงยีนส์ มายืนข้างหลังคุณแอนตี้ แต่มีคนสังเกตว่า มือที่คุณแอนตี้คิดว่าเป็นมือผีที่เกาะไหล่ กลายเป็นภาพคนที่กำลังเล่นมือถือแทน ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่ตอนที่คุณแอนตี้กำลังถ่ายรูป ได้มีคนที่ผ่านมาตรงนั้นกำลังมองดูมือถือพอดี และที่สำคัญ ได้มีเพจ Playpost ได้วิเคราะห์ถึงเสื้อผ้าผี ก็พบว่าผีใส่ทั้งเสื้อ Turnbull & Asser ราคากว่า 21,330, กางเกงยีนส์จาก Zara และรองเท้าจาก Autry จะเป็นไปได้ยังที่ผีจะมีรสนิยมดีขนาดนั้น

          ขณะที่ความเห็นในโลกออนไลน์ บางส่วนก็มองว่าไม่ได้คิดว่าหญิงปริศนาจะเป็นผีตั้งแต่แรก เพราะภาพนั้นค่อนข้างชัดมาก ๆ คาดว่าน่าจะเป็นการแกล้งโผล่เข้ามาร่วมเฟรม เหลือแค่ถ้าได้เห็นวงจรปิดก็น่าจะรู้แล้วว่าเบื้องหลังของภาพไวรัลนี้เกิดขึ้นได้ยังไง