ช็อก! นางเอกดังยุค 90 เปิดใจครั้งแรกพบเนื้องอกกลับมารอบ 3 พร้อมวีธีจัดการ

นางเอกดังยุค 90’s นุ่น สินิทธา ที่วันนี้มาเปิดใจครั้งแรกถึงเรื่องราวสุดช็อก หลังเนื้องอกที่มดลูกกลับมาเป็นครั้งที่ 3 ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31ทราบมาว่าเนื้องอกมันกลับมาจู่โจมอีกแล้ว ?

“หลังทำให้มันยุบได้ก็ฉลอง ระเริงไป ดีใจ อุ้ยตายแล้ว ยุบแล้ว เราก็กิน กินระมัดระวังนะ แต่ออกไปกินนอกบ้านซะเป็นส่วนมาก ไม่ค่อยได้ทำอาหารทานเอง มีวันที่คุมทานอาหารเองน้อยลง ทานนอกบ้านเยอะ อะไรที่อยากกินไม่เคยกิน แล้วไม่ได้กินมานานก็กินเต็มที่ไปเลย คือกินมากเกินไปนั่นเอง หิวโหย (หัวเราะ)”

ตอนแรกที่รักษาตัวจนหาย หายไปนานกี่ปี ?
“จริงๆ รักษาตัวประมาณ 6 เดือน เนื้องอกยุบก็ไปตรวจ มันยุบลง หลังจากดีใจ ประมาณช่วงก่อนปีใหม่ เราก็ฉลอง เริ่มกิน แต่สิ่งที่ชอบเป็นความทรงจำในวัยเด็ก ขนม โดนัท ชิฟฟ่อน เค้ก ชอบกินเบเกอรี กินแป้งขาวเยอะ อะไรที่อดมานานก็กินหมดทุกอย่าง วิปครีมเอย เนย เอาหมด”

ทานเยอะแค่ไหน ?
“โดนัทประมาณ 6 ชิ้นต่อ 1 ครั้ง กินแบบจุกๆๆ หกชิ้นทีเดียว (หัวเราะ) 6 ชิ้น 1 กล่องกินคนเดียวไม่แบ่งใคร ก็เหมือนฉลองไม่ได้กินมาหลายปี พอกินก็กิน 6 ชิ้นทีเดียว ทำแบบนี้ติดต่อกัน 3 เดือน อาทิตย์ละ 1 ครั้ง พอกินโดนัท 6 ชิ้นเสร็จก็อยากกินอีกแล้ว ก็ไปว่อนหาของกินที่ชอบ แซ่บไม่แซ่บ ชาติไหนก็แล้วแต่ ประดังประเด กินๆ”

ตอนรอบแรกที่เจอเนื้องอก ตัดสินใจจัดการยังไง ?

“ครั้งแรกตอนอายุ 30 คุณหมอบอกว่ามีเทคโนโลยีใหม่ มีการส่องกล้อง คุณหมอแนะนำว่าลองผ่าตัดมั้ย เราก็คิดว่าดีนะ ผ่าแล้วจะได้จบๆ ไป จะได้ไม่เป็นอีก พอผ่าเสร็จปุ๊บ ตื่นมาก็ปวดท้อง เพราะใครผ่าตัดมดลูกก็จะรู้ว่าเอาเท้าลงพื้นปวดขึ้นมามาก กว่าจะเดินได้ก็กะย่องกะแย่งประมาณ 2 อาทิตย์ เจ็บแล้วจบ โอเค เราก็คิดว่ามันหาย แต่ปรากฏว่าผ่านไปสองปี วิถีชีวิตเป็นแบบเดิมกินไส้กรอก กินของที่มาจากอุตสาหกรรมทั้งหมด ของที่ชอบ ของที่ใช่ กินง่ายกินเร็ว ไม่ต้องอุ่น ฉีกกินเลยก็ได้ พี่ก็ทำหมด กินเสร็จปุ๊บ เอ๊ะ! ทำไมไปตรวจสองปีผ่านไป เราต้องหายสิ ปรากฏว่ากลับมา 2 เม็ด มันย้ายที่ด้วย

ตอนแรกมันอยู่ในช่องท้องอยู่ด้านนอกของมดลูก ยอดมดลูก ไปเบียดกับตับ พอ 2 ปีกลับมาคราวนี้อยู่ในกล้ามเนื้อของมดลูกเลย มันไปงอกใหม่ในจุดอื่นเพราะพฤติกรรมการกินเรายังเหมือนเดิม เราใช้ชีวิตแบบเดิม คุณหมอก็แนะนำว่าเป็นฮอร์โมนไปกระตุ้นทำให้เกิดเนื้องอกได้ ก็คิดว่าฮอร์โมนส่วนนึง แต่ไอ้สิ่งที่เรากินเข้าไป มันไปสะสม ระยะเวลา 10-20 ปีที่เราใช้พฤติกรรมแบบเดิมๆ มันก็ส่งผลต่อส่วนต่างๆ ในร่างกายของเรา ของพี่แจ็คพอตคือมาออกที่มดลูก”
รอบแรกตัดสินใจผ่า รอบ 2 ตัดสินใจยังไง ?

“ไม่ผ่า เก็บไว้ดูเล่นก่อน ครั้งที่ 2 พอป่วยเกือบเป็นมะเร็ง ได้ค้นพบว่าการทำ Water Fasting (การลดน้ำหนักรูปแบบหนึ่งด้วยการดื่มน้ำเปล่าเท่านั้น) มันช่วยให้ตัวเนื้องอกฝ่อลงไปได้ มันไม่ได้หายไปนะ มันหดเล็กลง”

หนึ่งคอร์สต้องกี่วัน ?

“การทำ Water Fasting สำหรับพี่ ให้เห็นประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในเรื่องของเซลล์ต้อง 3 วัน ทำ 3 วันแล้วไม่ควรทำมากเกิน 3-5 วัน แค่นี้ควรจบพีเรียดแล้ว บางคนเดี๋ยวนี้มาราธอน คุยกันว่าทำมากกว่า 10 วัน อันนั้นจะมากเกินไป และส่งผลเสียแก่ร่างกาย อันนั้นไม่เห็นด้วย”

Water Fasting ต้องทำ 3 วัน แล้วผสมเกลือที่บริสุทธิ์ไปด้วย หลังจากตัดสินใจครั้งที่สองเจอเนื้องอก ไม่ผ่า มันหาย ?

“ห้ามใช้คำว่าหาย ใช้คำว่าฝ่อและเล็กลง พอมันฝ่อและเล็กลง อย่างที่บอกพฤติกรรมการเอาของเข้าปากเรามันก็ยุบหนอพองหนอ มันก็โตขึ้นมาอีกรอบนึง เนื้องอกไม่มีใครสรุปได้ว่าทำไมถึงเกิด แต่เขาเรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในร่างกายเราเอง ที่เขาเรียกว่ามันจะกลายพันธุ์

แต่จะไม่กลายพันธุ์จนกลายเป็นเซลล์ร้าย แค่มีการเปลี่ยนแปลง สามารถโตได้ด้วยตัวเอง มีการใช้พลังงานของเขาเอง มีการใช้อาณาจักรสร้างคิมดอมของเขาเอง แต่ไม่ถึงกับเป็นมะเร็ง เขาจะเปลี่ยนไปหรือกลายพันธุ์มันอยู่ที่ความเครียด การทานน้ำตาล ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่จะแปลงออกเป็นเซลล์ร้าย แต่นี่ยังไม่ถึง เนื้องอกอาจจะเป็นเซลล์ที่กลายพันธุ์แล้วสามารถโตขึ้นมาได้เอง มีการดึงพลังงานมาใช้เอง เหมือนเขาสร้างบ้านของเขาได้เอง”
รอบที่ 3 ที่กลับมาเป็นครั้งนี้ บ่งบอกยังไง ?

“อาการแรกคือเจ็บปีกมดลูก เวลาไข่ตก ใครอยากมีลูกจะรู้สึกเจ็บ และหน่วงในวันที่ไข่สุก จะรู้สึกปวดตึงธรรมดา แต่ของพี่มันเจ็บและร้าวลงไป เจ็บแบบจี๊ดๆ ไม่ได้อยู่แค่ 1 วัน ถ้าไข่ตกจะมีระยะเวลา 1 วันปวดตึงนิดหน่อย แต่ถ้ามากกว่านั้น 2-3 วันไม่หาย ยังเจ็บจี๊ดอยู่ แสดงว่าอาการของคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นซีสต์ถุงน้ำที่รังไข่ ให้ไปหาคุณหมอเลย อันนี้ก็พุ่งตรงดิ่งไปเลย แล้วแจ้งบาปตัวเองเลยว่า หนูคิดว่าหนูเป็นซีสต์ถุงน้ำที่รังไข่ค่ะ แกก็ทำหน้าแบบ รู้ได้ยังไง แต่พอไปอัลตร้าซาวด์ปุ๊บ มันแตกแล้ว มีร่องรอยอยู่นะว่าแตกแล้ว แต่ที่รู้ว่ากลับมาแน่นอนคือเนื้องอกสองตุ้มนี่แหละ กลับมาในขนาดที่ใหญ่ขึ้น ก็บอกว่าหนูกินเละเทะ (หัวเราะ)”

ตอนมันแตก ส่งผลอะไรบ้าง ?

“ปวดตึงเจ็บมา 5 วัน ธรรมดารังไข่สุกปุ๊บเขาเดินทางมาอยู่ตรงมดลูก จะมีอาการแค่ปวดตึงๆ ด้านซ้ายและขวาสลับกันอย่างละเดือน แต่ถ้าเกิดว่าเรามีอาการปวดจี๊ดลงไป อันนี้เริ่มมี ต้องไปหาคุณหมอถ้าต้องหาให้เจอ ต้องไปวันที่เราปวดเลย ซึ่งภาพวันนี้คือเนื้องอกของดิฉันเอง อันนึงคือ 7 เซนฯ อีกอันคือ 4 คุณหมอก็เสนอว่าตัดเลยมั้ย เราก็ยังดื้อแพ่งอยู่ว่าอย่าเพิ่งดีกว่า หนูยังอยากเก็บไว้ดูเล่น ขอทำ Water Fasting ก่อน สองก้อนนี่จากสองปีที่แล้วที่เจอ ที่ผ่า ยุบ แล้วก็มาใหม่”ทำไมมั่นใจว่าจะกลับไป Water Fasting อีก?

“เพราะมันช่วยให้ตัวเนื้องอกมันฝ่อได้ แล้วมีอัลตร้าซาวด์ยืนยันผลมา การปฏิบัติตัว การกินของเรานี่แหละค่ะ ที่จะทำให้เราแข็งแรง หรือเจ็บป่วย มันอยู่ที่ตัวเราเอง รอบสองก็ตั้งใจมาก แต่รอบสามผีเข้าผีออก เหมือนได้เวลาทำ Water Fasting ทำดีมา 4 เดือน อาการเจ็บที่รังไข่ ที่เป็น 5-6 วันหาย รอบประจำเดือนดีขึ้น ทุกอย่างดีขึ้นหมด แต่ก็มีชีวิตการทำงานที่ขลุกขลัก บางทีไม่สะดวก ไม่ถนัด ก็ขอเวลาตั้งใจจริงๆ อีกสักทีแล้วจะไปตรวจกับคุณหมอว่ามันจะยุบลงมั้ย ปีครึ่งที่กินสนุกสนาน คือกินข้าวนอกบ้าน 2 วัน 3 มื้อ แล้วอีก 5 วันคุมอาหาร แต่ก็กิน 3 มื้อ 5 วันก็กินข้าวปกติ กินเนื้อบ้าง ไม่กินบ้าง กินหลายๆ อย่าง จำไม่ได้ แต่บางทีก็เป็นอาหารที่ซื้อมากินด้วย”

2 วันที่เหลือกินอะไรที่ปล่อยจอย ?

“ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ อาหารจีน ที่ผัดใส่น้ำมันหอย ผัดไฟแดงใส่น้ำมันหอย ใส่ทุกอย่าง บุฟเฟ่ต์ด้วย อร่อยตรงไหนก็ไปกินหมด แล้วกินเยอะมาก กินเท่ากับผู้ชายตัวโตๆ คนนึง สเต็กก็กิน 350 กรัม ไม่พอก็ไปซัดมันบดอีก กินขนมปัง ผักไม่กิน (หัวเราะ) ตกเย็นก็กินอีก ผัดซีอิ้ว ราดหน้า บางทีก็ข้าวกระเพรา ให้คุ้มกับ 5 วันที่อั้นมา”

ทำไมไม่ตัดสินใจตัดมดลูกทิ้ง ?

“การตัดถ้ามันใหญ่ขนาด 10 กว่าเซนฯ ขึ้นไปพี่ยินดี แต่ยัง 7 อยู่ พี่ก็ถอย ยังขอเถียงว่าขอรักษาแบบนี้ไปก่อน ขอทำระบบ Autophagy ไปก่อน ซึ่งจริงๆ ระบบ Autophagy มันได้รับรางวัลโนเบลไพรซ์มา ก็เชื่อว่าอย่างน้อยรางวัลโนเบลไพรซ์น่าจะส่งผลดี ในเมื่อเราทดลอง 1 ครั้งกับตัวเราแล้วมันดี ดังนั้นการกลับไปทำครั้งที่สองมันก็น่าจะดี”

ทำไมชะล่าใจกินทุกอย่างใน 2 วัน ไม่กลัวมันกลับมาอีกเหรอ ?

“จริงๆ ไม่ได้คิดว่ากลัวกลับมาหรือไม่กลับมา คิดว่ายังไงมันก็อยู่กับพี่ตลอดไปอยู่แล้วเนื้องอก แต่ทำยังไงที่จะเมนเทนให้อยู่ในขนาดที่เราควบคุมได้มากกว่า”

เอ็กเพิร์สเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง รอบนี้ออกมาเปิดเผยว่าเป็นเนื้องอกอีกรอบ ไม่กลัวเสียฐานแฟนคลับที่ติดตามเราอยู่เหรอ ?

“ไม่นะ การทดลองเราทดลองกับตัวเองแล้วว่าเกิดผลจริง แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดก็แล้วแต่มันไม่มียาเม็ดเดียวแล้วบอกจะหายขาด จะดีไปตลอด มันเกิดจากพฤติกรรมการกินของเราเองนั่นแหละ ที่มันสร้างความสุขภาพดีหรือไม่ดีขึ้นมา ซึ่งมันก็ให้เห็นทั้งคู่ พอกินเละเทะ กินไม่ดี กินมั่วซั่วขึ้นมา ก็กลับมาเป็นโรคที่พี่หลีกเลี่ยงฉะนั้นการที่จะรักษาพฤติกรรมการกินให้คงอยู่ต่อไป คือการเมนเทนสุขภาพของเราให้มีความยั่งยืน การทำ Water Fasting ครั้งนี้ก็ไม่ต้องนับ เพราะทำบ่อยมาก (หัวเราะ) เป็นครั้งที่ 6 หรือ 7 จริงๆ มีกติกาว่าคนเจ็บป่วย ปีนึงทำได้ 6 เดือนต่อเนื่อง ถ้าเป็นเนื้องอกแบบพี่นะ เดือนนึงทำ 3 วัน

แต่สำหรับคนเป็นเนื้องอกที่มดลูกเท่านั้นนะ ให้ทำตรงรอบประจำเดือน มันก็เลยยุ่งยาก แล้วรอบประจำเดือนไม่เคยคุยกับเราสักทีว่ามันจะมาเมื่อไหร่ พอตรงบ้างไม่ตรงบ้าง แล้วงานเราค่อนข้างยุ่ง บางที 4 เดือนทำได้ หลังจากนั้นไม่ได้แล้ว ก็จะมียุ่งยาก แต่คนต้องการรีเวิร์สแอนด์รีเซ็ต อย่างภาวะดื้ออินซูลิน ภาวะเบาหวานประเภทที่สอง อันนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องรั้งรอ แต่ต้องคุยกับคุณหมอก่อนนะถ้าใครรับยาอยู่ ว่าอยากทำ Water Fasting ให้คุณหมอช่วยคุมยา แนะนำหน่อยว่าควรทานยาแบบไหน เพราะการทำ Water Fasting มันคือการเล่นกับเคมีและระดับน้ำตาลในเลือด ควรเรียนรู้และศึกษาก่อน”

คนปกติไม่ได้ป่วยไข้อะไร การทำ Water Fasting ทำได้มั้ย ?
“คนปกติปีนึงทำครั้งเดียว หรือปีนึงสองครั้งมากสุดพอแล้ว ไม่ควรทำมากไปกว่านี้ และไม่ควรทำเกิน 3 วัน พอแล้ว แต่ถ้ามีแค่รอบประจำเดือนไม่ตรง อยากมีบุตรอยากทำรอบประจำเดือนให้ตรง อันนี้คือการรีเซ็ต รีเวิร์สฮอร์โมน”

หลังจากรีเซ็ตตัวเองมา 4-6 ครั้งจากรอบที่ 3 ตอนนี้ได้ผลยังไงบ้าง ?

“รอบประจำตัวตรงสม่ำเสมอ ระบบเผาผลาญในร่างกายสามารถควบคุมได้ดี กินเละเทะยังไงก็ไม่อ้วน แต่ขอร้องผู้หญิงทุกคน อย่าเอาไปใช้กับการลดน้ำหนัก เพราะมันไม่เกิดผลหรอก มันแค่รูทน้ำหนักแค่ 3 กิโลภายในเวลา 3 วัน ไม่ได้เสียอะไรมากไปกว่านั้น แต่ที่มันดีคือการรีเวิร์สแอนด์รีเซ็ตเรื่องระบบเผาผลาญในร่างกาย ระบบเราจะดีขึ้น ฮอร์โมนจากผิดๆ เพี้ยนๆ ไปมันก็จะดีขึ้น อันนี้เป็นผลที่ได้รับตรงๆ”ต้องเรียกว่านักวิทยาศาสตร์ เป็นสายทดลองมาก เอาตัวเองเป็นหนูทดลองกับเรื่องต่างๆ และเรื่องการกิน ทดลองเรื่องอะไรบ้าง ?

“เรื่องการทานวิปครีม เพราะตอนนี้เราชอบเครื่องดื่มกันเนอะ ทุกคนมีเครื่องดื่มดีต่อใจ วันละแก้วสองแก้ว บางคนบอกว่าห้ามกินวิปครีม แต่ไปกินครีมที่ทำจากพืช พี่ก็ลองทั้งสองอย่างนี่แหละ แต่เลือกลองวิปครีมก่อน ทานวิปครีม 1 ลิตรต่อ 1 เดือน เท่ากับ 2 เดือนกินต่อเนื่อง ที่เห็นเลยคือน้ำหนักขึ้นมาเลย 3 กิโล ยกตัวอย่างเช้ากาแฟดำ เราใส่วิปครีมลงไปโดยไม่ใส่น้ำตาล แค่นี้สองเดือนน้ำหนักก็ขึ้นมา 3 กิโล”

ไม่กลัวเหรอ พอเราเป็นหนูทดลอง เนื้องอกจะใหญ่กว่าเดิม ?

“พี่คิดว่าเรากำลังทดลองกับอะไรอยู่ และเราต้องรู้ว่าเราคอนโทรลกับอะไร ฉะนั้นเราก็ต้องระมัดระวัง การหวาดกลัว กลัวได้ ระมัดระวังได้ แต่ถ้าเรารู้จุดแก้ไข รู้วิธีแก้มันคืออะไร คือการทานของเราเอง ฉะนั้นมันควรระมัดระวังเรื่องนี้ แต่อยากเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนรู้ว่าการทานอะไรซ้ำเดิมบ่อยๆ แล้วเป็นอุตสาหกรรมมากเกินไปไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าทานไม่ได้ แต่ควรเว้นระยะห่างให้พอเหมาะพอควร ถ้ารู้ว่าเราป่วย ไม่สบาย อยากกินจังเลย เว้นระยะให้ห่างไปนิดนึง ของอุตสาหกรรมคืออะไรที่ไม่บูดไม่เน่าใน 7 วันอยู่ในตู้เย็นออกข้างนอกได้ ตั้งไว้ข้างนอกได้ ไม่มีราขึ้น ไม่เสียภายใน 7 วัน อยู่ในตู้เย็นเปิดฝาแล้วสามารถกินต่อได้จนหมดใน 1 เดือน ถ้าทำเองได้ก็จะดีอาหารยำไทยบ้านเรา ถ้าไม่ได้ใส่ไส้กรอกหรือหมูยอก็ยังทานได้อยู่ ส้มตำก็ไม่เข้า Processed foods นอกจากใส่น้ำเชื่อม น้ำหวาน น้ำปลาร้าสูงเกินไป ถ้าลดพวกนี้ก็ถือว่าเป็นอาหารที่ดีอยู่ อาหารอีสานถือว่าเป็นอาหารที่ดีมากๆ อยู่ อาหารท้องถิ่นทั่วไป แกงอ่อม แกงเลียง อาหารบ้านเรากินได้หมด ไม่เป็น Processed foods มาก”