เคยเจอช่วงเวลาที่น่าอึดอัดใจเมื่อถึงเวลาต้องจ่ายบิลค่าอาหารในเดตแรกหรือไม่ ในขณะที่หลายคนยังสงสัยว่าใครควรเป็นคนจ่ายเงิน เป็นหน้าที่ของฝ่ายชาย หรือควรหารกัน แต่สาวคนหนึ่งกลับต้องเผชิญความสับสนยิ่งกว่านั้น หลังจากที่หนุ่มคู่เดตออกหน้าอาสาจัดการบิลให้ แต่สุดท้ายกลับส่งข้อความมาทวงเงินค่าอาหารครึ่งหนึ่ง ทำให้เธอถึงกับหมดอารมณ์จะไปต่อกับหนุ่มคนนี้
เรื่องราวดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากเว็บไซต์เดลี่สตาร์ วันที่ 17 เมษายน 2567 โดยหญิงเจ้าของเรื่องเผยว่า เดตหายนะดังกล่าวเกิดขึ้นที่ร้านซูชิ มันเป็นเดตแรกของเธอกับชายคนนี้ ซึ่งจริง ๆ พวกเขาก็ตกลงกันไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะหารบิลกัน แต่เมื่อถึงเวลาที่เธอจะหยิบบัตรมาจ่ายเงินจริง ๆ กลับมีปัญหาเกิดขึ้น ทำให้ฝ่ายชายรีบออกปากว่าจะจัดการให้ แต่กลับส่งข้อความมาทวงเงินหลังจากนั้น
“ฉันกำลังจะจ่ายค่าอาหารครึ่งหนึ่งส่วนของฉัน แต่บัตรของฉันถูกปฏิเสธ ฉันบอกเด็กเสิร์ฟทันทีว่าฉันคงต้องใส่รหัส PIN ของบัตร เพราะน่าจะใช้วิธีแตะบัตรมาหลายครั้งเกินไป ซึ่งตอนนั้นชายหนุ่มที่เธอเดตด้วยก็พูดขึ้นทันทีว่า ‘ได้โปรดให้ผมจัดการแทน’ แล้วเขาก็ใช้บัตรตัวเองแตะเพื่อจ่ายเงินเลย” หญิงสาวระบุ
เธอยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นว่า “แต่เย็นนี้เขากลับส่งข้อความมาหาฉัน บอกว่า คุณช่วยโอนเงินครึ่งหนึ่งของคุณมาได้ไหม ตามที่เราตกลงกันว่าจะจ่ายคนละครึ่ง”
หญิงสาวชี้ว่าหลังฝ่ายชายทวงเงิน เขายังส่งลิงก์แนะนำสถานที่สำหรับเดตต่อไปมาให้ ถามว่าสัปดาห์นี้เธออยากไปที่นั่นหรือไม่ แต่แม้เธอจะโอนเงินไปให้เขาแล้ว เธอเลือกที่จะไม่ตอบคำถามหรือคำขอเดตใด ๆ จากเขาอีก เพราะไม่รู้สึกสนใจในตัวชายคนนี้แล้ว
เธอยังถามว่าตัวเองดูไร้เหตุผลเกินไปหรือไม่ที่ไม่สนใจชายคนนี้แล้ว
เมื่อเรื่องของเธอกลายเป็นที่พูดถึง ก็มีคนมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็นโดยส่วนมากเลือกเข้าข้างฝ่ายหญิง โดยมองว่า หากฝ่ายชายเสนอที่จะจัดการบิลเองที่ร้าน นั่นหมายถึงเขายินดีที่จะเป็นคนจ่ายบิลทั้งหมดแล้ว
“เขาทำให้ตัวเองดูเป็นคนใจกว้างต่อหน้าเด็กเสิร์ฟ จากนั้นก็มาเรียกเงินคืนทีหลัง ฉันไม่ชอบผู้ชายขี้เหนียวแบบนี้ คุณบอกแล้วว่าคุณกำลังจะกดรหัส PIN เพื่อจ่ายเงินส่วนของคุณ แล้วทำไมเขาต้องมาบอกว่าจะจ่ายให้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะจ่ายให้จริง ๆ” คอมเมนต์หนึ่งระบุ
ยังมีอีกหลาย ๆ คอมเมนต์ชี้ว่า “เขาดูเหมือนคนที่อยากถูกคนเห็นตอนทำเรื่องดี ๆ แต่กลับมีนิสัยต่างออกไปเบื้องหลังประตูที่ปิดอยู่” และ “เป็นความจริงที่เขาแค่อยากดูเป็นผู้ชายใจโต เสนอเลี้ยงข้าวสาวต่อหน้าเด็กเสิร์ฟ แต่ไม่ใช่กับคุณ”
อย่างไรก็ตาม บางคนยังแนะนำเธอให้ลองไปเดตกับเขาอีกครั้ง โดยอ้างว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพียงการสื่อสารที่ผิดพลาดธรรมดา เขาอาจไม่ได้ตั้งใจบอกเป็นนัยว่าจะจ่ายค่าอาหารให้ทั้งหมด โดยเฉพาะหลังจากที่ทั้งคู่ตกลงกันไว้แล้วว่าจะออกเงินคนละครึ่ง