ยุคนี้หลายคนเป็นโสด อยู่ตัวคนเดียวกันมากขึ้น ซึ่งอาจจะมีข้อดีคือได้อยู่อย่างอิสระอย่างที่ใจต้องการ แต่ก็มีข้อเสียคือตอนที่เจ็บป่วยไม่สบาย จะไม่มีคนช่วยดูแลให้ ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องหนักใจสุด ๆ ไปเลย
ล่าสุด 18 เมษายน 2567 คุณ สมาชิกหมายเลข 7903443 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เธอเป็นคนที่ชอบอยู่ตัวคนเดียว เป็นคนขี้รำคาญและไม่ชอบพูด ไม่ชอบให้มีคนอยู่ในบ้าน ชอบอยู่กับธรรมชาติ เล่นกับแมว เรื่องฐานะก็ไม่ได้ลำบาก ซึ่งนิสัยขี้รำคาญนี้ ทำให้เธอมักหงุดหงิดเวลาที่มีคนมาตีสนิทด้วย เธอเคยเปิดใจแล้วแต่ไม่ได้ผล และโดนยืมเงิน จนถึงขั้นที่ต้องขายบ้านหนีคนยืมเงิน พอย้ายมาอยู่ที่ใหม่ คนข้างบ้านก็มักจะเอาหมามาฝากไว้ให้เลี้ยงเพราะไปต่างจังหวัดบ่อย เธอเลยตัดสินใจย้ายบ้านอีกรอบ คราวนี้ไปอยู่กลางป่า ชอบมาก ๆ เพราะเงียบสงบและบรรยากาศดีสุด ๆ มีความสุขมาก ๆ อยากทำอะไรก็ทำ และเธอจะออกจากบ้านแค่เดือนละ 2-3 ครั้งเพื่อไปซื้อของใช้เท่านั้น
แต่แล้วในช่วงสงกรานต์ เธอขับรถแล้วมีคนเมาขับรถชนท้าย จนเธอได้รับบาดเจ็บหน้าอกกระแทก เธอจึงโทร. ให้กู้ภัยมาช่วย ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ถามหาญาติ แต่เธอก็บอกว่าไม่มี แต่สุดท้ายทางแพทย์ก็รักษา จนทำให้เกิดคำถามที่ว่า หากวางแผนจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในบั้นปลาย จะทำอย่างไรในกรณีนี้
อย่างไรก็ตาม ได้มีหลายคนมาบอกเล่าประสบการณ์ ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้
– ในกรณีที่มีการเซ็นเอกสารนั้น คือ เอกสารยินยอมรับการรักษา กระทำตามที่แพทย์วินิจฉัย ซึ่งในเอกสารจะระบุด้วยว่า ผู้ป่วยมาคนเดียว หรือมากับญาติ และมีส่วนที่ให้เซ็นยินยอมสำหรับผู้แทนผู้ป่วย ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ได้สติ และมีการระบุเหตุผลได้ว่า เหตุใดผู้ป่วยจึงไม่สามารถเซ็นยินยอมรักษาตัวเองได้ เช่น สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ สับสน หรือไม่รู้สึกตัว
– หากผู้ป่วยมาโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยและจะให้ผู้ป่วยคนนั้นเข้ารับการรักษาด่วน ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีสติ คนป่วยจะต้องเซ็นเอง และให้ญาติเป็นพยาน หากไม่มีญาติมาด้วย ก็จะมีหมายเหตุว่าไม่มีพยาน
– หากผู้ป่วยมาโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยและจะให้ผู้ป่วยคนนั้นเข้ารับการรักษาด่วน แต่สมมุติว่าผู้ป่วยไม่มีสติ ติดต่อญาติไม่ได้ ถ้าหลักฐานทางการแพทย์ครบและต้องช่วยชีวิตผู้ป่วยเดี๋ยวนั้น แพทย์จะทำการรักษาได้ทันทีโดยไม่ต้องเซ็นยินยอม เช่น กรณีอุบัติเหตุ ซึ่งในหลายครั้ง ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุไม่มีหลักฐานติดตัวมา ตามหาญาติไม่ได้
– ปัจจุบันมีกฎ UCEP คือ สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐ เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนพ้นวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
– มีคนหนึ่งบอกว่า ตนเคยหมดสติและต้องแอดมิตด่วน แต่พ่อแม่อยู่ไกล ไม่สามารถมาเซ็นรักษาให้ได้ หมอก็ดูแลจนได้สติและพูดคุยถึงการรักษา จากนั้นทำการผ่าตัดเลย โดยที่ไม่รอพ่อแม่มาเซ็น
– ในขณะที่มีอีกคนเผยว่า ตัวเขาเคยเกิดเลือดคั่งในสมอง ไม่มีสติ ไม่มีญาติ และต้องผ่าตัดใน 10 นาที ตอนนั้นคุณหมอก็ทำการผ่าตัดให้เลย จนสุดท้ายเขาก็ปลอดภัยในที่สุด