จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ ภายในอาณาบริเวณ บ้านเลขที่ 555 บ้านหนองใส อ.เมืองอุดรธานี ของแม่นกน้อย อุไรพร เจ้าของวงเสียงอิสาน ลุกไหม้โกดังเก็บของใช้ในการแสดง ลามไปโรงรถหรือเวทีไลฟ์สด รถยนต์ชาวคณะที่จอดไว้เสียหายหลายคัน สาเหตุจากน้องชายพ่อหลอดที่มารับจ้างทำความสะอาด เผาขยะแล้วลุกลาม
ล่าสุดทางด้าน นายศุภมิตร ฉิมหลวง อายุ 65 ปี น้องชายนายมัยกิจ ฉิมหลวง หรือพ่อหลอด สามีแม่นกน้อย เล่าว่า ตนอยู่บ้านใกล้กับบ้านพักเสียงอิสาน มีคนจ้างมาทำความสะอาด เก็บกวาดขยะหลังมีงานแสดง ตนจึงเก็บกวาดขยะมากองไว้ข้างโกดัง ซึ่งขยะมีจำนวนมากและกองใหญ่ เกรงว่าลมจะพัดขยะปลิวจึงจุดไฟเผาขยะตอนลมไม่แรง แต่ไฟได้ลามไปไหม้หญ้าและลุกลามไหม้โกดังเก็บชุดหางเครื่อง ลำโพง ตอนนั้นอยู่คนเดียวตกใจมาก ควบคุมเพลิงไม่ได้ทำให้ลุกลาม ซึ่งลูกน้องได้โทรไปบอกแม่นกน้อยแล้ว ถ้าให้ตนชดใช้ค่าเสียหายก็คงไม่ไหว
นายเปิ้ล อายุ 37 ปี อดีตแดนเซอร์เสียงอิสาน เล่าว่า มาช่วยพ่อมาทำก่อสร้าง เห็นนายศุภมิตรมาทำความสะอาดบริเวณบ้าน และจุดไฟเผากองขยะ ประมาณ 20 นาที ไฟได้ไหม้หญ้าแห้ง และลุกลามไปไหม้โกดังอย่างรวดเร็ว พยายามไปช่วยดับไฟ แต่ดับไม่ได้ ขณะที่ น.ส.พัฒนากาญน์ ไกรษี อายุ 33 ปี เล่าว่า เป็นหางเครื่องวงเสียงอิสานมาประมาณ 15 ปี ก่อนเกิดเหตุนอนหลับอยู่บ้านพักหลังโกดัง เพื่อนวิ่งมาปลุกจึงออกมาดู พบไฟกำลังไหม้โกดังเก็บของ ซึ่งมีลำโพง เครื่องดนตรี ชุดหางเครื่อง มีกล่องพลาสติกเก็บอุปกรณ์การแสดงจำนวนมาก และลามมาติดโรงรถซึ่งก่อนหน้านี้ใช้เป็นสตูสำหรับไลฟ์สด และห้องซ้อมดนตรี ความเสียหายน่าจะเสียหายมาก ส่วนแม่นกน้อยกำลังเดินสายแสดงอยู่ที่กรุงเทพฯ แถวหมอชิต และน่าจะทราบเรื่องแล้ว รู้สึกสงสารแม่ใหญ่มาก
ด้าน ร.ต.ท.หญิง วิลาสินี อาษานาม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้สอบสวนสาเหตุของเพลิงไหม้ ทราบว่าเกิดจากการเผาขยะแล้วลุกลามไหม้โกดังและโรงรถ มีรถเสียหายหลายคัน ซึ่งยังประเมินค่าไม่ได้ ต้องรอเจ้าของบ้านกลับมาก่อน ส่วนนายศุภมิตร คนเผาขยะจนลุกลาม เบื้องต้นแจ้งข้อหา “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย” เพื่อดำเนินการต่อไป