กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างมากเลยทีเดียวในสังคมโซเชียลมีเดียของประเทศจีน หลังจากเว็บไซต์ tintuconline รายงานว่า นางหว่อง (นามสมมุติ) หญิงชรารายหนึ่งในประเทศจีน เป็นคนหัวโบราณและมักเชื่อการรักษาโรคพื้นบ้าน ซึ่งความจริงแล้วมันก็ไม่ได้ผิดอะไร หรือสร้างปัญหาให้ใคร
แต่แล้ววันนึง เธอได้ยินเคล็ดลับที่เชื่อว่าจะช่วยให้เด็กๆ รับประทานอาหารได้ดี และเติบโตอย่างรวดเร็ว หากให้เด็กรับประทาน ไข่ดิบ เพื่อว่ามันจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจเลี้ยงหลานชายอายุ 4 ขวบ ด้วยไข่ดิบทุกวัน ด้วยความหวังว่าเขาจะเติบโตขึ้นด้วยร่างกายที่สูงและแข็งแรง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
อย่างไรก็ดี หลังจากนั้น ไม่นานเด็กชายก็รู้สึกไม่สบายท้อง รู้สึกเบื่ออาหาร และผอมลงมาก นางหว่องเป็นกังวลจึงรีบพาหลานไปโรงพยาบาล หลังการตรวจแพทย์วินิจฉัยว่า เป็น มะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะเริ่มแรก พร้อมกับเตือนว่า คุณยายครับไข่ดิบมีแบคทีเรียซัลโมเนลลา ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งนี้ โรคร้ายที่เกิดขึ้นกับหลานชายทำให้นางหว่องเสียใจมาก ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่เธอคิดว่าดีสำหรับหลานชาย จะกลายเป็นการทำร้ายเขาแทน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
แล้วไข่ดิบดีต่อสุขภาพจริงหรือ ต้องบอกว่าความจริงแล้ว นี่เป็นความเชื่อที่ผิดอย่างสิ้นเชิง ประการแรก คุณค่าทางโภชนาการของไข่ดิบนั้นต่ำกว่าไข่ปรุงสุกอย่างมาก ด้วยโครงสร้างโปรตีนของไข่ดิบมีความแน่น และยากต่อร่างกายมนุษย์ในการย่อย แต่เมื่อถูกปรุงให้สุกแล้วโครงสร้างโปรตีนจะนุ่มขึ้นและดูดซึมได้ง่ายขึ้น
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
ส่วน ประการที่สอง ความเสี่ยงต่อการเกิดอาหารเป็นพิษจากการกินไข่ดิบมีสูงมาก เนื่องจากเชื้อซัลโมเนลลา ซึ่งเป็นแบคทีเรียก่อโรคที่พบได้ทั่วไปในไข่ดิบ เมื่อติดเชื้ออาจเกิดอาการอาหารเป็นพิษอย่างรุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก
