หนึ่งในโพสต์ที่ถูกแชร์สนั่นในโลกออนไลน์ ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา เป็นโพสต์ของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่โพสต์ภาพหลักฐานจากแชต ที่จับได้ว่าแฟนที่คบมา 9 ปี นอกใจไปมีสัมพันธ์กับคนในที่ทำงาน โดยเล่าเรื่องราวสุดเจ็บช้ำที่เจอ โดยมีคนกดไลก์มากกว่า 35,000 ครั้ง และแชร์ออกไปกว่า 28,000 แชร์ โดยขอความทั้งหมด ระบุว่า
‘‘รางวัลของความซื่อสัตย์ คือ การโดนทรยศ หักหลัง’‘ ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่ารักคนอื่นมากกว่าตัวเอง เพราะสุดท้ายไม่มีใครสามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิตนอกจากตัวเราเอง
เราคบกับแฟนมา 9 ปี ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ไม่มีอะไรเลย ลำบากและสู้ชีวิตมาด้วยกัน จนตอนนี้ทำงานและมีเกือบทุกอย่างที่เราอยากได้ ตลอดเวลาที่คบกันมา 9 ปี เราซื่อสัตย์กับเขาตลอด เราเรียนคนละมหาลัย จนเรียนจบเราตัดสินใจทิ้งครอบครัวและเพื่อน (บ้านเราอยู่เพชรบูรณ์ส่วนเขาอยู่ลำพูน) เพื่อมาอยู่กับเขาและหางานทำ ในที่ที่เราก็ไม่รู้จักใครเลย ไม่มีใครเลยนอกจากเขาและครอบครัวเขา แพลนอนาคตว่าจะปักหลักปักฐานทำธุรกิจร่วมกัน ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงิน จนบางทีเราโอเวอร์โหลดจากงานมาก ๆ (ลักษณะงานของเราคือมีเวลาเป็นส่วนตัวน้อย)
เราก็งี่เง่า ไม่สนใจเขาบ้าง เราตั้งใจจะออกจากงานนี้ หลังเราได้รับโบนัสพิเศษเราพูดกับเขาเสมอว่าอดทนรออีกนิดนะ เดี๋ยวหนูออกจากงานนี้แล้วหนูจะมีเวลาให้พี่มากขึ้น (เพราะช่วงหลังเราไม่มีเวลาไปเที่ยวด้วยกันเลย) แล้วเราจะได้เปิดร้านกาแฟตามที่เราฝันไว้ด้วยกัน ทุกอย่างก็พังทลายลง เพราะความเอ๊ะของผู้หญิงนี้แหละ
หลังวันเกิดเราได้ไม่กี่วันมันมีพฤติกรรมบางอย่างของเขา ที่เรารู้สึกแปลก ทำไมวันนี้จอดรถนานจัง? ทำไมวันนี้เข้าห้องน้ำนานจัง เราไปไหนมาไหนตัวติดกันตลอด ยกเว้นช่วงที่เราทำงาน เวลามีอะไรผิดปกติเราจึงรู้สึกได้ค่อนข้างไว
ความสงสัยมันแว้บเขามาในหัว และเราก็มีคนในใจอยู่ด้วย 1 คน คือรุ่นน้องที่ทำงานในกลุ่มในแก๊งเดียวกันของเขา หลังๆ เขาชอบพูดถึงคนนี้บ่อยๆ แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขามีเพื่อนร่วมงานเป็นผู้หญิง ในกลุ่มเขาคือผู้ชายคนเดียว เพื่อนร่วมงานทุกคนรู้จักเราและเราก็รู้จักทุกคนในกลุ่มเขาด้วย เพราะจะเจอกันบ่อยๆ จนเราไม่เคยรู้สึกสงสัยอะไรเลย
เราไม่เคยเช็กมือถือเขาเลย จนกระทั่งเรารู้สึกเอ๊ะนี่แหละ เรามีพาสเวิร์ดมือถือกันอยู่แล้ว แต่เราไม่เคยเช็กเลย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องที่เขานอกใจ นอกกายเรามาแล้ว 1 ครั้ง แต่เป็นช่วงที่คบกันมาได้ประมาณ 2 ปี แล้วเรื่องนั้นมันก็จบลง เราก็ทำใจนะ และเชื่อมั่นในตัวเขาว่าเขาจะไม่ทำกับเราแบบนี้อีก
เราบอกกับตัวเองว่าถ้าเราไม่เชื่อในเขา เราก็จะระแวง ถ้ามันเกิดความระแวงในชีวิตคู่เราก็จะไม่มีความสุข เราก็เลยตัดสินใจไม่เช็กโทรศัพท์มือถือเขาเลย และเขาก็ไม่มีพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงความผิดปกติอะไรเลย เราไว้ใจและเชื่อใจเขามาตลอด เราคิดว่าคนนี้แหละที่จะฝากอนาคตไว้ด้วย เลยไม่ได้เผื่อใจ แต่ก็พบว่ามันเกิดขึ้นอีกครั้งจนได้
เราเปิดมือถือเข้าไปดูแชตที่คุยกับรุ่นน้องคนนั้น ในเฟซบุ๊กขึ้นวิดีโอคอล ครั้งล่าสุดเป็นเวลาเดียวกันกับเขาจอดรถในโรงจอดรถที่บ้าน เราเลื่อนขึ้นไปข้างบนก็ไม่มีอะไรผิดปกติ คุยกันเรื่องงาน แล้วเราก็ไปเปิดไลน์ก็ไม่มีความผิดปกติอะไร จนเราไปเปิดที่ไอจี ก็ช็อก เพราะข้อความที่คุยกันมันไม่ใช่แค่รุ่นน้องแน่นอน บวกกับรูปภาพที่รุ่นน้องคนนั้นถ่ายมาให้แฟนเราดู ยังไงก็ไม่ใช่แค่รุ่นน้องที่ทำงาน มีบอกคิดถึงอยากเจอหน้า ตอนนั้นเราช็อกทำอะไรไม่ถูกเลย ได้แต่เอามือถือเรามาถ่ายรูปไว้ รอจนเช้า เราก็ร้องไห้ไม่หยุด จนเขาตื่นแล้วก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นเราไม่พูดอะไร เขาก็คิดว่าเรามีเรื่องกับที่ทำงาน เขาก็ค่อยปลอบใจและก็ขับรถมาส่งเราที่ทำงาน แล้วเราก็ตัดสินใจเอารูปในมือถือให้เขาดู เขาก็อึ้งไปพักนึง จนเราถามเขาพี่จะเลือกใคร แล้วคำตอบคือ ขอเวลาให้เขาหน่อย เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาก็อธิบายเหตุผลว่าที่เขาทำแบบนี้ เพราะเราไม่มีเวลาให้เขา เราไม่สนใจเขา เราเป็นแบบนั้นเราเป็นแบบนี้ เหตุผลเยอะแยะเต็มไปหมด จนเราคิดว่า นี่เราแย่ขนาดนี้เลยหรอ แล้วเราก็ขอโอกาสเขา ขอแก้ไขในความผิดพลาดของเรา เพราะเราผ่านอะไรมาด้วยกันมาตั้งมากมาย ทำไมครั้งนี้เราจะผ่านมันไปไม่ได้
แต่เขากลับบอกว่าเขาอยากลองใช้ชีวิตในแบบที่เขาอยากทำ และขอลดสถานะกับเรา เราก็เลยตกลงกับเขาว่า ขออยู่กับเขาจนถึงโบนัสออกได้ไหม เราจะดูแลเขา แล้วขอปรับปรุงตัวเอง ถ้าโบนัสออกแล้วมันไม่มีอะไรดีขึ้นเราจะไป
คำตอบคือ หนูรู้ใช่ไหมว่าหนูอยู่ที่นี่ได้ เราก็ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตไป เราก็ใช้ชีวิตของเราพร้อมกับดูแลเขาเหมือนเดิม แต่เขาติดรุ่นน้องคนนั้นมาก จนไม่มีเวลาให้เราเลย แล้วสุดท้ายเขาก็เปลี่ยนไป
จนถึงช่วงที่เราจับได้ว่า ช่วงที่เราไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด รุ่นน้องคนนั้นขนเสื้อผ้าขับรถมานอนที่บ้านเรา มันเจ็บที่สุดก็คือมามีอะไรกันบนเตียงที่เรานอน เตียงที่เราตั้งใจเก็บเงินซื้อมันด้วยกัน เพราะเราทำงานมาเหนื่อยอยากนอนที่นอนดีๆ นุ่มๆ นอนสบายๆ แล้วเราก็เริ่มลงสตอรี่ไอจี เหน็บรุ่นน้องคนนั้น แล้วรุ่นน้องคนนั้นก็โกรธที่เราโพสต์เหน็บ ก็เลยทำให้เขาโกรธเราไปด้วย
จนทำให้เขาไล่เราออกจากบ้าน แต่เรายืนยันว่าเราไม่ออก เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอีก เขามีอารมณ์รุนแรงมากขึ้น ถึงขั้นทำร้ายร่างกายเราถึง 2 ครั้ง จนเรากลับมาคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วเราตัดสินใจว่า ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ใครอยู่มัน เราจะไม่ยุ่งวุ่นวายอะไรกับเขาอีกแล้ว
แต่เราก็ยังคอยซัปพอร์ตเขาตลอด ทำตัวเหมือนเพื่อน เราทำใจได้แล้วพร้อมที่จะมูฟออน เราแค่รอเวลาที่เราจะไปก็แค่นั้นเอง เรายังนอนด้วยกันเตียงเดียวกัน บางครั้งเขาต้องการมีอะไรด้วยเราก็ใจอ่อนยอมเสมอ
สุดท้ายก็เป็นเราที่เจ็บและเสียใจเสมอ เราต้องเริ่มทำใจใหม่ทุกครั้ง ต้องพยายามมูฟออนใหม่ทุกครั้ง จนพักหลังเราเริ่มเห็นคุณค่าของตัวเองรักตัวเองมากขึ้นและเราก็บอกตัวเองเสมอว่าจะไม่มีใครสามารถมาทำร้ายเราได้อีก เวลาเขาขอมีอะไรด้วย เราจึงปฏิเสธเขาเพื่อตัวของเราเอง เราไม่อยากเจ็บไปมากกว่านี้แล้ว เราเลยขีดเส้นไว้ จนสุดท้ายเขาก็มาล้ำเส้นเราจนได้
ก่อนสงกานต์เราดื่มกันเพื่อนที่ทำงานจนเมา แต่เราก็รู้ตัวมีสติในระดับนึง แต่แค่ไม่มีแรงต่อสู้เขาได้เลย เขาได้ขืนใจเราทั้งที่เราก็สู้เขาไม่ได้เลย สิ่งนี้มันทำให้เรารับเขาไม่ได้อีกแล้วมันมีความรู้สึกว่าทำไมเขาทำกับเราแบบนี้ ตลอด 9 ปี เขารู้จักเราจริงๆ หรือเปล่า ทำไมเขาถึงได้เหยียบย่ำเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำอย่างกับว่าเราไม่มีหัวใจเลย ทำให้เราตัดสินใจออกจากบ้านเขาทั้งๆ ที่ยังไม่ครบกำหนดที่เราตกลงกันไว้
เราบอกกับตัวเองว่าถึงไม่มีที่ไปฉันก็จะไป ฉันไม่สามารถอยู่ในจุด จุดนี้ได้อีกต่อไปแล้ว พอมีเวลาเรามานั่งคิดทวนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับสิ่งที่เราโทษตัวเองมาตลอด พอเรามีสติมากขึ้นเราจะมองเห็นอะไรได้เยอะขึ้น เขาไม่ได้สนใจอะไรเราเลย เราเองต่างหากที่เหนื่อย เราเองต่างหากที่เสียใจและร้องไห้อยู่ฝ่ายเดียว
ปล. อาจมีคนสงสัยว่าทำไมมีข้อความส่วนของผู้หญิงมากกว่าของผู้ชาย เพราะเขาคุยกันทาง IG ผู้ชายใช้ฟังก์ชั่น โหมดข้อความที่หายไป ค่ะ จะไม่เห็นว่าเขาพิมพ์อะไรไปหาฝั่งนั้นบ้าง จะเห็นเฉพาะฝั่งผู้หญิงตอบกลับข้อความฝั่งผู้ชายถึงจะขึ้นให้เห็นบ้างบางส่วนเท่านั้นค่ะ
ปล.สุดท้ายนี้ขอฝากถึงคนที่คิดจะนอกใจ ถ้าหมดรักกันแล้ว บอกกันดี ๆ เถอะ เลิกกันก่อน อย่าทรยศ หักหลังกันแบบนี้เลย เพราะเหตุผลทั้งหมดที่พยายามอธิบายในการนอกใจมันจะกลายเป็นแค่ข้ออ้างเพื่อที่จะไปมีคนอื่นก็เท่านั้นเอง คนที่โดนนอกใจมันทุกข์ และเจ็บปวดมาก มันคือฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเราทุกคืน
จริง ๆ มันมีอะไรมากกว่านี้นะ แต่ก็ช่างมันเถอะ ต่อไปขออย่าได้พบเจอกันอีกเลย แยกย้ายทางใครทางมัน