กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้โพสต์เล่าประสบการณ์ถูกชายคนรักที่เป็นคุณครู ทรยศหักหลัง แอบไปมีสัมพันธ์์กับครูโรงเรียนเดียวกัน สุดท้ายความรัก 9 ปี ที่ฝ่าฟันกันมาก็ต้องพังทลายลงด้วยน้ำมือของคนไม่รู้จักพอ โดยข้อความทั้งหมด ระบุว่า “รางวัลของความซื่อสัตย์ คือ การโดนทรยศ หักหลัง” ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่ารักคนอื่นมากกว่าตัวเอง เพราะสุดท้ายไม่มีใครสามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิตนอกจากตัวเราเอง
จุดเริ่มต้นของความรักก่อนถูกนอกใจ เราคบกับแฟนมา 9 ปี ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ไม่มีอะไรเลย ลำบากและสู้ชีวิตมาด้วยกัน จนตอนนี้ทำงานและมีเกือบทุกอย่างที่เราอยากได้ ตลอดเวลาที่คบกันมา 9 ปี เราซื่อสัตย์กับเขาตลอด เราเรียนคนละมหาลัย จนเรียนจบเราตัดสินใจทิ้งครอบครัวและเพื่อน (บ้านเราอยู่เพชรบูรณ์ส่วนเขาอยู่ลำพูน) เพื่อมาอยู่กับเขาและหางานทำในที่ที่เราก็ไม่รู้จักใครเลย ไม่มีใครเลยนอกจากเขาและครอบครัวเขา แพลนอนาคตว่าจะปักหลักปักฐานทำธุรกิจร่วมกัน ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงิน จนบางทีเราโอเวอร์โหลดจากงานมากๆ (ลักษณะงานของเราคือมีเวลาเป็นส่วนตัวน้อย) เราก็งี่เง่า ไม่สนใจเขาบ้าง เราตั้งใจจะออกจากงานนี้ หลังเราได้รับโบนัสพิเศษเราพูดกับเขาเสมอว่าอดทนรออีกนิดนะ เดี๋ยวหนูออกจากงานนี้แล้วหนูจะมีเวลาให้พี่มากขึ้น (เพราะช่วงหลังเราไม่มีเวลาไปเที่ยวด้วยกันเลย) แล้วเราจะได้เปิดร้านกาแฟตามที่เราฝันไว้ด้วยกัน
เริ่มเอะใจ แฟนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป
ทุกอย่างก็พังทลายลง เพราะความเอ๊ะของผู้หญิงนี้แหละ หลังวันเกิดเราได้ไม่กี่วันมันมีพฤติกรรมบางอย่างของเขาที่เรารู้สึกแปลก ทำไมวันนี้จอดรถนานจัง? ทำไมวันนี้เข้าห้องน้ำนานจัง เราไปไหนมาไหนตัวติดกันตลอด ยกเว้นช่วงที่เราทำงาน เวลามีอะไรผิดปกติเราจึงรู้สึกได้ค่อนข้างไว ความสงสัยมันแว้บเขามาในหัว และเราก็มีคนในใจอยู่ด้วย 1 คน คือรุ่นน้องที่ทำงานในกลุ่มในแก๊งเดียวกันของเขา หลังๆ เขาชอบพูดถึงคนนี้บ่อยๆ แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขามีเพื่อนร่วมงานเป็นผู้หญิง ในกลุ่มเขาคือผู้ชายคนเดียว เพื่อนร่วมงานทุกคนรู้จักเราและเราก็รู้จักทุกคนในกลุ่มเขาด้วย เพราะจะเจอกันบ่อยๆ จนเราไม่เคยรู้สึกสงสัยอะไรเลย เราไม่เคยเช็กมือถือเขาเลยจนกระทั่งเรารู้สึกเอ๊ะนี่แหละ เรามีพาสเวิร์ดมือถือกันอยู่แล้ว
แต่เราไม่เคยเช็กเลย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องที่เขานอกใจ นอกกายเรามาแล้ว 1 ครั้ง แต่เป็นช่วงที่คบกันมาได้ประมาณ 2 ปี แล้วเรื่องนั้นมันก็จบลง เราก็ทำใจนะและเชื่อมั่นในตัวเขาว่าเขาจะไม่ทำกับเราแบบนี้อีก เราบอกกับตัวเองว่าถ้าเราไม่เชื่อในเขาเราก็จะระแวง ถ้ามันเกิดความระแวงในชีวิตคู่เราก็จะไม่มีความสุข เราก็เลยตัดสินใจไม่เช็กโทรศัพท์มือถือเขาเลย และเขาก็ไม่มีพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงความผิดปกติอะไรเลย เราไว้ใจและเชื่อใจเขามาตลอด เราคิดว่าคนนี้แหละที่จะฝากอนาคตไว้ด้วยเลยไม่ได้เผื่อใจ แต่ก็พบว่ามันเกิดขึ้นอีกครั้งจนได้
จับโป๊ะได้จากแชตในมือถือ
อ่านยังไงก็ไม่ใช่รุ่นพี่รุ่นน้อง เราเปิดมือถือเข้าไปดูแชทที่คุยกับรุ่นน้องคนนั้นเลย ในเฟซบุ๊กขึ้น วิดีโอคอล ครั้งล่าสุดเป็นเวลาเดียวกันกับเขาจอดรถในโรงจอดรถที่บ้าน เราเลื่อนขึ้นไปข้างบนก็ไม่มีอะไรผิดปกติคุยกันเรื่องงาน แล้วเราก็ไปเปิดไลน์ก็ไม่มีความผิดปกติอะไร จนเราไปเปิดที่ไอจีก็ช็อก เพราะข้อความที่คุยกันมันไม่ใช่แค่รุ่นน้องแน่นอน บวกกับรูปภาพที่รุ่นน้องคนนั้นถ่ายมาให้แฟนเราดู ยังไงก็ไม่ใช่แค่รุ่นน้องที่ทำงาน มีบอกคิดถึงอยากเจอหน้า
ตอนนั้นเราช็อกทำอะไรไม่ถูกเลย ได้แต่เอามือถือเรามาถ่ายรูปไว้ รอจนเช้าเราก็ร้องไห้ไม่หยุดจนเขาตื่นแล้วก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นเราไม่พูดอะไร เขาก็คิดว่าเรามีเรื่องกับที่ทำงานเขาก็คอยปลอบใจและก็ขับรถมาส่งเราที่ทำงาน แล้วเราก็ตัดสินใจเอารูปในมือถือให้เขาดู เขาก็อึ้งไปพักนึง จนเราถามเขาพี่จะเลือกใคร แล้วคำตอบคือ ขอเวลาให้เขาหน่อย เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาก็อธิบายเหตุผลว่าที่เขาทำแบบนี้ เพราะเราไม่มีเวลาให้เขา เราไม่สนใจเขา เราเป็นแบบนั้นเราเป็นแบบนี้ เหตุผลเยอะแยะเต็มไปหมด จนเราคิดว่า นี่เราแย่ขนาดนี้เลยหรอ แล้วเราก็ขอโอกาสเขาขอแก้ไขในความผิดพลาดของเรา เพราะเราผ่านอะไรมาด้วยกันมาตั้งมากมาย ทำไมครั้งนี้เราจะผ่านมันไปไม่ได้ แต่เขากลับบอกว่าเขาอยากลองใช้ชีวิตในแบบที่เขาอย่างทำ และขอลดสถานะกับเรา เราก็เลยตกลงกับเขาว่าขออยู่กับเขาจนถึงโบนัสออกได้ไหม เราจะดูแลเขาแล้วขอปรับปรุงตัวเอง ถ้าโบนัสออกแล้วมันไม่มีอะไรดีขึ้นเราจะไป คำตอบคือ หนูรู้ใช่ไหมว่าหนูอยู่ที่นี่ได้ เราก็ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตไปเราก็ใช้ชีวิตของเราพร้อมกับดูแลเขาเหมือนเดิมแต่เขาติดรุ่นน้องคนนั้นมาก จนไม่มีเวลาให้เราเลย แล้วสุดท้ายเขาก็เปลี่ยนไป
ช้ำคือเรา เจ็บอีกรอบ จับได้แฟนพาชู้ครูสาวมานอนที่บ้าน
จนถึงช่วงที่เราจับได้ว่า ช่วงที่เราไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด รุ่นน้องคนนั้นขนเสื้อผ้าขับรถมานอนที่บ้านเรา มันเจ็บที่สุดก็คือมามีอะไรกันบนเตียงที่เรานอนเตียงที่เราตั้งใจเก็บเงินซื้อมันด้วยกัน เพราะเราทำงานมาเหนื่อยอยากนอนที่นอนดีๆ นุ่มๆ นอนสบายๆ แล้วเราก็เริ่มลงสตอรี่ไอจีเหน็บรุ่นน้องคนนั้น แล้วรุ่นน้องคนนั้นก็โกรธที่เราโพสต์เหน็บ ก็เลยทำให้เขาโกรธเราไปด้วย จนทำให้เขาไล่เราออกจากบ้านแต่เรายืนยันว่าเราไม่ออกเพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอีก เขามีอารมณ์รุนแรงมากขึ้นถึงขั้นทำร้ายร่างกายเราถึง 2 ครั้ง
จนเรากลับมาคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดแล้วเราตัดสินใจว่า ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ใครอยู่มันเราจะไม่ยุ่งวุ่นวายอะไรกับเขาอีกแล้ว แต่เราก็ยังคอยซัพพอร์ตเขาตลอดทำตัวเหมือนเพื่อน เราทำใจได้แล้วพร้อมที่จะมูฟออน เราแค่รอเวลาที่เราจะไปก็แค่นั้นเอง เรายังนอนด้วยกันเตียงเดียวกัน บางครั้งเขาต้องการมีอะไรด้วยเราก็ใจอ่อนยอมเสมอ สุดท้ายก็เป็นเราที่เจ็บและเสียใจเสมอ เราต้องเริ่มทำใจใหม่ทุกครั้ง ต้องพยายามมูฟออนใหม่ทุกครั้ง
ถึงจุดโดนล้ำเส้น โดนฝ่ายชายย่ำยีแบบไม่เต็มใจ
ขอเก็บกระเป๋าออกจากบ้าน จนพักหลังเราเริ่มเห็นคุณค่าของตัวเองรักตัวเองมากขึ้นและเราก็บอกตัวเองเสมอว่าจะไม่มีใครสามารถมาทำร้ายเราได้อีก เวลาเขาขอมีอะไรด้วยเราจึงปฏิเสธเขาเพื่อตัวของเราเอง เราไม่อยากเจ็บไปมากกว่านี้แล้ว เราเลยขีดเส้นไว้ จนสุดท้ายเขาก็มาล้ำเส้นเราจนได้ ก่อนสงกรานต์เราดื่มกันเพื่อนที่ทำงานจนเมา แต่เราก็รู้ตัวมีสติในระดับนึง แต่แค่ไม่มีแรงต่อสู้เขาได้เลย เขาได้ขืนใจเราทั้งที่เราก็สู้เขาไม่ได้เลย สิ่งนี้มันทำให้เรารับเขาไม่ได้อีกแล้วมันมีความรู้สึกว่าทำไมเขาทำกับเราแบบนี้ ตลอด 9 ปี เขารู้จักเราจริง ๆ รึเปล่า ทำไมเขาถึงได้เหยียบย่ำเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำอย่างกับว่าเราไม่มีหัวใจเลย ทำให้เราตัดสินใจออกจากบ้านเขาทั้งๆ ที่ยังไม่ครบกำหนดที่เราตกลงกันไว้ เราบอกกับตัวเองว่าถึงไม่มีที่ไปฉันก็จะไป ฉันไม่สามารถอยู่ในจุดๆ นี้ได้อีกต่อไปแล้ว พอมีเวลาเรามานั่งคิดทวนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับสิ่งที่เราโทษตัวเองมาตลอด พอเรามีสติมากขึ้นเราจะมองเห็นอะไรได้เยอะขึ้น เขาไม่ได้สนใจอะไรเราเลย เราเองต่างหากที่เหนื่อย เราเองต่างหากที่เสียใจและร้องไห้อยู่ฝ่ายเดียว
ปล. อาจมีคนสงสัยว่าทำไมมีข้อความส่วนของผู้หญิงมากกว่าของผู้ชาย เพราะเขาคุยกันทาง IG ผู้ชายใช้ฟังชั่น โหมดข้อความที่หายไป ค่ะ จะไม่เห็นว่าเขาพิมพ์อะไรไปหาฝั่งนั่นบ้าง จะเห็นเฉพาะฝั่งผู้หญิงตอบกลับข้อความฝั่งผู้ชายถึงจะขึ้นให้เห็นบ้างบางส่วนเท่านั้นค่ะ ปล.สุดท้ายนี้ขอฝากถึงคนที่คิดจะนอกใจ ถ้าหมดรักกันแล้ว บอกกันดี ๆ เถอะ เลิกกันก่อน อย่าทรยศ หักหลังกันแบบนี้เลย เพราะเหตุผลทั้งหมดที่พยายามอธิบายในการนอกใจมันจะกลายเป็นแค่ข้ออ้างเพื่อที่จะไปมีคนอื่นก็เท่านั้นเอง คนที่โดนนอกใจมันทุกข์ และเจ็บปวดมาก มันคือฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเราทุกคืน จริง ๆ มันมีอะไรมากกว่านี้นะ แต่ก็ช่างมันเถอะ ต่อไปขออย่าได้พบเจอกันอีกเลย แยกย้ายทางใครทางมัน
ชาวเน็ตอ่านแล้วพร้อมขึ้นรถทัวร์ แห่แชร์จนแฮชแท็ก #กุสุมา #สันป่าเหียง ขึ้นเทรนด์โซเชียล หลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้มีการโพสต์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาอ่าน คอมเมนต์ และแชร์กันเป็นจำนวนมาก โดยมีการโพสต์เรื่องนี้พร้อมติดแฮชแท็ก #กุสุมา #สันป่าเหียง เพราะไลน์ของแฟนที่มีการสนทนากับครูสาว มีการไปนั่งดื่มกินกันที่ร้านหม่าล่าชื่อ “กุสุมา” ส่วน “สันป่าเหียง” มาจากชื่อชุมชน ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของแฟนหนุ่มและครูสาวมือที่สามนั่นเอง บทสรุปดราม่า
#กุสุมา #สันป่าเหียง กุสุมา ครูสาวที่เป็นมือที่สามได้ย่องเงียบจดทะเบียนกับครูหนุ่มเรียบร้อยแล้ว ส่วนสาวเจ้าของเรื่องก็เผยว่าเคยคิดที่จะฟ้องวินัยถึงต้นสังกัดของแฟนหนุ่ม เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาไม่ยุติธรรมสำหรับตน แต่แม่ฝ่ายชายได้ขอไว้ เพราะเขามีลูกชายเพียงคนเดียว ตนจึงต้องก้มหน้ารับไปเพราะอาศัยอยู่ในบ้านเขา แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอมูฟออนและกลับมารักตัวเอง โดยที่ชาวเน็ตต่างก็ให้กำลังใจ แต่ขณะเดียวกันก็มีคนเปิดวาร์ปฝ่ายชายและชู้ในโลกออนไลน์ แล้วบอกว่าจะคอยดูว่า กุสุมาแย่งเขาไปแล้วจะไปรอดมั้ย