เรียกว่าเคลียร์กันอย่างชัดเจนเลยทีเดียว สำหรับนักร้องหนุ่ม ว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์ กับแฟนสาว ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ ที่ก่อนหน้านี้ถูกจับตามองถึงเรื่องความสัมพันธ์ว่าทั้งคู่ได้ปิดฉากรัก 8 ปีไปแล้วจริงหรือไม่?
ล่าสุด ว่าน ธนกฤต ก็ได้เปิดใจขณะได้ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ หลังไมค์ UNCENSORED ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า “มีประโยคหนึ่งที่ฟางเคยพูดกับผมเมื่อ 3 ปีก่อนว่า พี่ว่านมันไม่คล้ายว่าเป็นแฟนกัน มันเหมือนเป็นพี่ที่สนิทมากๆ คนนึงที่คุยทุกเรื่อง คุยเรื่องงาน ที่เก่งกว่าเรา ก็บอกเขาว่าก็ดีแล้วไง เพื่อนคุณ หรือผู้หญิงก็ตามหาความเหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ ตามหาความมั่นคงไง”
“ความมั่นคงและความเหมือนเดิมมันต้องน่าเบื่อ หันไปดูพ่อกับแม่เลย น่าเบื่อ มันต้องน่าเบื่อ มันไม่มีเลย โอ้โหโรแมนติก เซอร์ไพรส์ ไม่มีทางมันต้องน่าเบื่อ แต่ว่ามันจะเป็นความน่าเบื่อที่งดงามมาก เพราะ 2 คนนี้จะอยู่ด้วยกันสม่ำเสมอ”
“บางวันไม่อยากคุยกันด้วยซ้ำ เหม็นขี้หน้า แต่ยังต้มแกงจืดทิ้งไว้ให้ ไม่อยากให้เขาตายเพราะอดอาหาร ผมก็บอกฟางว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกมาก ผมเองก็ไม่เคยคบกับใครมาเป็นระยะเวลา 8 ปี นานครับ มันอาจจะดูกิ๊กก๊อกหรือเบสิกสำหรับผู้ใหญ่นะครับ”
“ผมไม่รู้ว่า วัฒนธรรมในการใช้ชีวิตของฟางกับผมมันมีอะไรบางอย่างที่มันคล้ายกัน สิ่งที่ต่างมีแน่ๆ แต่สิ่งที่คล้ายก็มีแน่ๆ เราล้วนแต่จะต้องมีเวลาของตัวเอง เราจะมีห้องส่วนตัวของเรา และเราจะไม่ยุ่มย่ามกัน วันครอบครัวของเขา เราก็จะไม่ยุ่ง เราจะมีสวนหน้าบ้านตรงนี้แชร์ได้ มาเดินเล่น มาใช้เวลาด้วยกันได้”
“แต่จะไม่มีใครถามอะไรให้ลำบากใจ มันเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ฟางถามวันนั้น ผมก็เลยบอกว่าน่าเบื่อดีเนอะ นี่แหละมันคือแก่นของการคบกัน ผมเริ่มเข้าใจแล้วที่บอก รัก 7 ปี อาถรรพณ์เลข 7 เพราะมันจะแบบ เหมือนเดิมอีกแล้ว”
“ผมศรัทธาในตัวฟางนะ ผมขอบคุณเขาอยู่ทุกวันที่เขาเองก็ปรับตัวเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อที่จะอยู่กับคนน่าเบื่อและงี่เง่าอย่างผมได้ ผมเองก็ปรับตัวเพื่อที่จะอยู่กับคนน่ารักและเย็นชาแบบฟางได้ ไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงจะเป็นอย่างนี้ไปอีก หรือออกเรือนไปอยู่ด้วยกันผมมั่นใจว่าผมดูแลเขาได้”
“เพราะผมเริ่มเห็นแล้วว่าสิ่งที่ผมต้องทำให้เขาคืออะไรบ้าง สิ่งที่ผมต้องรักษาพื้นที่ของตัวเองไว้เพื่อให้ยังเป็นผมอยู่”
เป็นคำตอบเดิมว่ายังไงก็ยังเป็นฟางใช่ไหมสำหรับว่าน ?
“ใช่ๆ ครับ”
เพราะมันมีข่าวลือหนาหูมาก ?
“อ๋อ มีข่าวเยอะมาก จนคนที่เขียนข่าวไม่เคยถามผมด้วยซ้ำ และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมพูดเรื่องนี้ ความเจ๋งก็คือฟางเป็นคนไม่พูด ผมก็เป็นคนไม่พูด แล้วเราก็ไปกินข้าวกัน 4-5 ครั้งก่อนผมไปบวช ผมก็บอกว่าดีนะ ปล่อยไว้แบบนี้แหละ ให้เขาพูดกันไป แล้วเราก็กินชาบูกันอร่อยๆ ดูสิว่าเรื่องมันจะไปถึงไหน”
ก็ไม่มีใครกล้าถาม?
“ใช่ครับ คือผมจะพูดเรื่องจริงอยู่แล้วถ้ามันเจ๋ง ผมก็จะบอกว่าไม่สามารถพาความสัมพันธ์นี้ไปต่อได้แล้วในเวลา 8 ปี ไปไม่ได้แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้เห็นว่ามันแย่อะไร สมมติถ้าไม่มีฟางจริงๆ ผมก็ยังนึกไม่ออกว่าจะมีใครที่ทำให้หัวใจมันสั่นไหวแบบเมื่อครั้งนั้นหรือเปล่า”
เรื่องอะไรที่ทำให้ว่านกับฟางทะเลาะกันบ่อยที่สุด ?
“ไม่มีครับ 8 ปีทะเลาะกัน แต่ไม่ใช่เรื่องหลัก ถ้ามี เขาบ่นผมเรื่องกลับช้าในบางวัน ติดสังสรรค์กับเพื่อนในบางครั้ง กลับดึก เบสิก ส่วนผมก็จะบ่นฟางเรื่องช้า ไม่ใช่เข้าห้องน้ำนานนะ ผมไม่ว่าแล้ว แต่สิ่งที่ผมหงุดหงิดและบ่นฟางบ่อยครั้งคือการเผื่อเวลา เพราะว่าผมโตขึ้นมั้ง ถ้าฟางไม่ชอบเขาก็จะไม่ไป ถ้าผมไม่ชอบผมก็ไม่ไป ก็จะบอกเขาว่า ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ไป คู่ผมไม่ค่อยออกงาน”
“ฟางเป็นคนมีเสน่ห์และน่ารักมาก ไปดูหนังกันครั้งแรก บอกฟางอยากกินฮะเก๋า เขาบอกอยากกินลงไปซื้อ ฟางจะไปซื้อตั๋วหนัง เขาจะได้ไม่เห็นว่าเรามาดูหนังด้วยกัน ก็บอกเขาว่า นี่มันไม่ใช่ยุคพี่มอสนะ ไม่ใช่เต๋า เราสามารถซื้อตั๋วหนังและป๊อปคอร์นเข้าไปด้วยกันได้ แต่ผมก็ลงไปซื้อฮะเก๋า ฟางซื้อตั๋วหนังแล้วฉีกฝากไว้กับพนักงาน ผมแบบ ผมเจอคนที่ชอบแน่ๆ แล้ว นี่แหละคนแบบนี้แหละ”
แพลนแต่งงานมีไหม ?
“ผมพร้อมตลอดเวลา ผมอยากให้ฟางเขาพร้อมด้วยดีกว่า ไม่ใช่ว่าเอาอายุผมเป็นตัวตั้ง เดี๋ยวมีบุตรยาก เหี่ยวปลาย ผมว่าไม่แฟร์ ถ้าเรารักกันเมื่อไหร่ก็ได้ เอาแบบต่างคนต่างอยากแต่ง ไม่อยากใช้เหตุผลของตัวเราเองไปทำให้เขาต้องทำอย่างนั้น”
ว่านพูดเสมอ แต่งเมื่อไหร่ก็ได้เพราะพร้อม แต่เจ้าสาวต้องเป็นฟาง ?
“ใช่ คือถ้าเรามั่นใจ เรายังศรัทธาและรักเขาแบบนี้ เมื่อไหร่ก็ได้ หรืออาจจะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้น อาจจะไม่ผิดอะไร”
วันนี้ยังรักกันดี และยังอยากให้คนนี้อยู่ข้างๆ เราตลอดไป ?
“ใช่ครับ”