วันที่ 10 พ.ค. 2567 ที่จ.อุดรธานี พ.ต.ต.วัฒพงศ์ จำนงอุดม สว.(สอบสวน) สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนช็อตปลา แต่โดนไฟช็อตเสียชีวิต ที่สระน้ำกลางทุ่งนา ท้ายบ้านดงยาง ต.นากว้าง จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำกว้างประมาณ 1 งาน น้ำในสระแห้งขอด พบศพนายแมนทา อายุ 56 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในสระ สภาพสวมยืดสีน้ำเงิน กางเกงในสีน้ำตาล มีกางเกงวอร์มสีน้ำเงิน หมวกผ้าและรองเท้าฟองน้ำวางอยู่ นอกจากก็พบปลาช่อน 1 ตัวที่จับได้อยู่พื้นไม้ข้างสระน้ำ จากการชันสูตรพบว่า มือซ้ายมีรอยไหม้ ไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายเสียชีวิต เนื่องจากโดนไฟช็อตมาประมาณ 1 ชั่วโมง
น.ส.หนูแดง อายุ 59 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ผู้ตายมาบอกตนว่าอยากกินแกงตาลใส่ปลา จะไปหาปลาที่สระน้ำในที่นาของตัวเอง หลังจากนั้นผู้ตายก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาปลาคนเดียว ซึ่งสระห่างจากบ้านประมาณ 800 เมตร ตนเห็นว่าผู้ตายไปนานจึงบอกให้หลานไปดู หลานก็กลับมาบอกว่าไม่เห็นผู้ตายอยู่ที่สระน้ำ ตนจึงออกไปตามหาสามีเอง
พอไปถึงที่นาเห็นสายไฟเสียบอยู่เต้ารับโรงเก็บฟางติดกับคอกวัว โยงลงไปสระน้ำ เห็นไม้ช็อตปลาอยู่ในสระน้ำ มีเสื้อผ้าและรองเท้าถอดไว้บนฝั่ง แต่ไม่เห็นสามี พอสังเกตดูดีๆ ก็เห็นมือข้างขวาโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ตนรู้ทันทีว่าสามีถูกไฟช็อต จึงวิ่งไปดึงปลั๊กไฟ แล้วลงไปลากร่างสามีมาไว้ขอบสระ และวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
โดยก่อนเกิดเหตุมีลางร้าย ฝันว่าเดินไปตามถนนกับย่าไปทางบ้านบ่อน้ำ ขณะเดินไปก็เห็นคนหูใหญ่มือใหญ่เท้าใหญ่ ตัวสูงมากเหมือนเปรตเดินสวนทางมา ก็เลยจูงมือย่าเดินไปอีกทาง จนไปถึงป่าช้า แล้วเจอแม่ชีบอกว่ามาทำไมให้กลับไป จึงจูงกันเดินกลับบ้านไปทางบ้านโนนสวรรค์ พบเมียอดีตผู้ใหญ่บ้านถามว่าจะพากันไปไหน ตนก็บอกว่าจะพากันกลับบ้านแล้วสะดุ้งตื่น ไม่คิดว่าสามีจะมาเสียชีวิต และไม่รู้ว่าความฝันจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วันนี้หรือไม่