เปิด พินัยกรรม บุ้ง ทะลุวัง มอบทรัพย์สินเงินสด-เงินฝาก ให้ หยกแต่เพียงผู้เดียว พร้อม นาฬิกาข้อมือ-ต่างหู-แมวชื่อโซ ส่วนที่ดินยกให้พี่สาว
จากกรณี น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมือง ที่ถูกคุมขังในคดีความผิด มาตรา 112 ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 67 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 110 วันแล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้อดอาหาร เพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และยุติการคุมขังผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง
จนช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ค. 67 มีรายงานข่าวว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์แจ้งว่า เวลา 06.00 น. บุ้ง ทะลุวัง หัวใจหยุดเต้น และกำลังปั๊มหัวใจอยู่
ต่อาเวลา 11.22 น. หลังจากทีมแพทย์พยายามช่วยเหลือและส่งตัวไปรักษายัง รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ล่าสุดมีรายงานว่า บุ้ง ทะลุวัง ได้เสียชีวิตแล้ว โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้เข็นร่างจากห้องฉุกเฉิน มาชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เดินตามมาด้วย 2 นาย
ด้านเจ้าหน้าที่นิติเวชยืนยันว่า มีรายชื่อ น.ส.เนติพร มาที่ห้องนิติเวช เพื่อชันสูตรจริง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่มีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัน อายุ 29 ปี แกนนำกลุ่มทะลุวัง ซึ่งถูกคุมขังตามหมายขังของศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ทำพินัยกรรมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 2 ก.พ. 67 แสดงเจตนาในการจัดการทรัพย์สินของตน ภายหลังจากที่ตนถึงแก่ความตายแล้ว
ดยพบว่าทรัพย์สินที่เป็นเงินสดของตนที่มีเก็บรักษาไว้ และที่มีอยู่ในบัญชีเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมทั้งทรัพย์สินคือ นาฬิกาข้อมือ ต่างหู และสัตว์เลี้ยงคือแมวชื่อโซ 1 ตัว ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของ น.ส.หยก (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ผู้ต้องหาคดี 112 ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนทรัพย์สินอื่นนอกจากที่ระบุไว้ข้างต้น อันรวมถึงที่ดิน สิทธิเรียกร้อง และสิทธิตามมรดกใดที่ตนพึงมีอยู่ก่อนที่จะถึงแก่ความตาย ขอยกให้แก่พี่สาวของตนแต่เพียงผู้เดียว และภายหลังจากที่ตนถึงแก่ความตายแล้ว ขอมอบให้ทนายความเป็นผู้จัดการมรดกของตนตามพินัยกรรมนี้ และให้มีอํานาจหน้าที่ตามกฎหมายทุกประการ
หากปรากฏว่า ณ วันที่ทําพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้น มีพินัยกรรมใดๆ ที่ปรากฏว่าได้ทําก่อนหน้า ให้ถือว่าพินัยกรรมที่ได้ทําก่อนหน้านั้นถูกยกเลิกทุกฉบับ ยืนยันว่าข้อความตามพินัยกรรมฉบับนี้เป็นไปตามเจตนาของตนทุกประการ ในขณะที่ทําพินัยกรรมฉบับนี้ ตนเข้าใจข้อความแห่งพินัยกรรมนี้เป็นอย่างดีและเห็นว่าตรงตามเจตนาของตน จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน