จากกรณีเมื่อเช้านี้ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง กลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง หัวใจหยุดเต้น หมอกำลังปั๊มหัวใจอยู่นั้น ล่าสุดเวลา 11.22 น. หลังจากทีมแพทย์พยายามช่วยเหลือและส่งตัวไปรักษายัง รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ มีรายงานว่า บุ้ง กลุ่มทะลุวัง ได้เสียชีวิตแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ รพ. ได้เข็นร่างจากห้องฉุกเฉิน มาชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เดินตามมาด้วย 2 นาย
สำหรับ บุ้ง ทะลุวัง ถูกขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2567 หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงโทษจำคุก 1 เดือน กรณีละเมิดอำนาจศาล
จากนั้นบุ้ง ประกาศอดอาหารและน้ำประท้วง (Dry Hunger Strike) ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2567 เวลา18.00 น. จนถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 โดยรวมแล้วบุ้งอดอาหารทั้งหมด 108 วัน
โดยก่อนหน้านี้ บุ้งได้เขียนหนังสือบริจาคร่างกายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ใจความว่า
หนังสือฉบับนี้ทำขึ้นเพื่อแสดงเจตนาของข้าพเจ้า ซึ่งถูกคุมขังอยู่ตามหมายขังของศาลอาญากรุงเทพใต้ และขณะนี้กำลังทำการอดอาหารและน้ำพื่อประท้วงกระบวนการยุติธรรมของไทย
ข้าพเจ้าขอแสตงเจตนาต้องการบริจาคร่างกายของตนภายหลังจากที่ตายแล้ว โดยอุทิศร่างนี้ให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อการศึกษาและวิจัย เพื่อนำร่างของข้าพเจ้าไปใช้ทำประโยชน์ เป็นการเผยแพร่ความรู้ถึงสกาวะที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของมนุษย์เมื่อเกิดการอดอาหารขึ้น
ในการอุทิศร่างกายดังกล่าว ข้าพเจ้าขอความกรุณาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสดร์ กรุณารับร่างของข้าพเจ้าไว้ แม้จะไม่สามารถเดินทางมาติดต่อกรอกข้อมูลและยื่นเอกสารด้วยตนเองได้ ด้วยเหตุผส่วนตนและเหตุผลจากการที่ถูกคุมขังอยู่ภายใต้การควบคุมของราชทัณฑ์
ทั้งนี้ หากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะทำการรับร่างของข้าพเจ้าไว้ ก็จักเป็นการขอบพระคุณยิ่ง และต้องขออภัยหากหนังสือแสดงเจตนาของข้าพเจ้าได้สร้างความเดือดร้อนให้กับคณะแพทย์ศาลตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โดยประการใด
ขอแสดงความนับถือเป็นอย่างสูง ในกิจการที่คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลยรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้ยืนหยัดช่วยเหลือประชาชนตลอดมา
คุณความดีใดที่ได้จากการอุทิศร่างกายในครั้งนี้ ขอส่งให้กับประชาชนที่ยากลำบากทุกคนและขอให้ไม่มีความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยอีกต่อไป
มีรายงานเพิ่มเติมว่า บุ้ง ทะลุวัง เคยทำพินัยกรรม ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ระบุเจตนาจัดการทรัพย์สิน หากตนถึงแก่ชีวิตแล้ว โดยขอแสดงเจตนายกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ดังนี้ ทรัพย์สินที่เป็นเงินสดและในบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมทั้งนาฬิกาข้อมือ ต่างหู และสัตว์เลี้ยง ขอให้หยก (หยก ธนลภย์ อดีตนักกิจกรรมทางการเมืองที่เคยอยู่ในความดูแลของบุ้ง) ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวสำหรับทรัพย์สินอื่น อันรวมถึงที่ดิน สิทธิเรียกร้อง และสิทธิตามมรดกที่ตนมีอยู่ก่อนจะถึงแก่ความตาย ขอยกให้ พี่สาวเพียงผู้เดียว ทั้งนี้ ขอมอบให้ทนายความของตน เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมนี้