หนุ่มถูกลักพาตัว ซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินนาน 27 ปี ที่แท้เป็นฝีมือของคนใกล้ตัว…!!!

คิดว่าตายในสงคราม หนุ่มหายตัวไปนานกว่า 27 ปี ที่แท้เพื่อนบ้านลักพาตัว สลด แม่ตายโดยไม่รู้ว่าลูกยังมีชีวิตอยู่

เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า นายโอมาร์ บิน ออมราน ชายชาวแอลจีเรีย จู่ ๆ ก็หายตัวไปในปี 2541 ขณะเขาอายุ 17 ปี ครอบครัวคิดว่าเขาเสียชีวิตในสงครามกลางเมือง กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ความจริงก็ปรากฏว่าตลอด 27 ปีที่ผ่านมา เขาถูกเพื่อนบ้านลักพาตัวไป และสถานที่ที่เขาถูกคุมขังอยู่ห่างจากบ้านเพียง 200 เมตร

ตามรายงานเผยว่า โอมาร์ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเจลฟา หายตัวไประหว่างเดินทางไปโรงเรียน แต่เนื่องจากขณะนั้นเกิดสงครามกลางเมืองของประเทศในแอฟริกาเหนือกับกลุ่มกบฏอิสลามต่าง ๆ ในช่วงปี 2533-2543 ครอบครัวจึงคิดว่าโอมาร์อาจเสียชีวิตในสงครามกลางเมือง

ความก้าวหน้าของคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อพี่ชายของผู้จับกุมโอมาร์ ซึ่งอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งในครอบครัวเรื่องมรดก ออกมาเปิดเผยถึงการมีอยู่ของโอมาร์ และนำไปสู่การช่วยเหลือครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจพบตัวโอมาร์ซึ่งปัจจุบันอายุ 45 ปี ซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินเล็ก ๆ ในคอกแกะ ขณะเพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุ ตอนนี้อายุ 61 ปีแล้ว เป็นข้าราชการและอาศัยอยู่ตามลำพัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนหาสาเหตุที่ลักพาตัวเพิ่มเติมต่อไป

สื่อท้องถิ่นยังรายงานด้วยว่า ระหว่างที่เขาถูกลักพาตัว สุนัขของโอมาร์ได้กลิ่นเจ้านายของมันอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่เพื่อนบ้านกลัวว่าที่อยู่ของโอมาร์จะถูกเปิดเผย เขาจึงวางยาพิษจนสุนัขเสียชีวิต

อัยการในเมืองจาลฟา ระบุว่า พวกเขาได้รับแจ้งเบาะแสของโอมาร์เมื่อไม่กี่วันก่อน ก่อนจะดำเนินการจนพบตัวโอมาร์ในที่สุด ส่วนสาเหตุที่เพื่อนบ้านลักพาตัวโอมาร์นั้น อัยการกำลังสอบสวนเพิ่มเติม 

ในการสืบสวน ตำรวจยังให้ความสนใจในประเด็นที่ว่า เหตุใดโอมาร์จึงถูกคุมขังเป็นเวลา 27 ปี โดยที่ไม่ขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม สื่อแอลจีเรีย รายงานว่า สาเหตุที่โอมาร์ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้เป็นเวลาหลายปี เนื่องจากผู้ก่อเหตุลักพาตัวใช้มนต์สะกดใส่เขา

รายงานยังได้แจ้งข่าวเศร้าว่า แม่ของโอมาร์ได้เสียชีวิตในปี 2556 ทำให้เธอไม่รู้เลยว่าลูกชายของเธอยังมีชีวิตอยู่ และถูกลักพาตัวโดยฝีมือเพื่อนบ้านของตนเอง ขณะที่โอมาร์ทราบข่าวการตายของแม่ขณะที่เขายังถูกจองจำ

ทั้งนี้ ทางแผนกตุลาการของแอลจีเรียเน้นย้ำว่า พวกเขาจะสอบสวนคดีนี้อย่างจริงจัง และจะลงโทษผู้กระทำผิดอย่างรุนแรง ขณะที่โอมาร์กำลังได้รับการดูแลทางจิต เพื่อช่วยให้เขาฟื้นตัวจากประสบการณ์เลวร้ายนี้