รวบ นายสุวัฒน์ชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี หมอดูที่ใช้ฉายาว่า จักรกรี เชียงใหม่ ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 152/2567 ลงวันที่ 21 มี.ค.67 ข้อหา “ฉ้อโกง และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
ข้อหา “ฉ้อโกง และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” จับกุมได้ที่ บริเวณ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
ตรวจสอบในฐานระบบ ยังพบว่ามีหมายจับติดตัวอีก 4 หมาย ดังนี้
1) หมายจับศาลแขวงนครราชสีมา ที่ 24/2567 ลงวันที่ 1 ม.ค.67 ข้อหา “ฉ้อโกง การเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม ม. 14 วรรค 1 ที่มิได้กระทำความผิดต่อประชาชนแต่เป็นการกระทำความผิดต่อบุคคล”
2) หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 206/2566 ลงวันที่ 3 มี.ค.66 ข้อหา “ตัวการในข้อหาฉ้อโกง”
3) หมายจับศาลสมุทรปราการ ที่ 141/2566 ลงวันที่ 28 ก.พ.66 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ฉ้อโกง กระทำด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ในระหว่างส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้มีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ หรือเพื่อบุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้”
4) หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ 417/2565 ลงวันที่ 5 ก.ย.2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง”
ผู้ต้องหาให้การรับว่าได้กระทำความผิดจริงโดยหลอกผู้เสียหายเป็นเวลา 2 ปี มีผู้เสียหายที่หลงเชื่อ หลักร้อยราย ความเสียหายหลักร้อยถึงหลักแสนแล้วแต่กำลังทรัพย์ของผู้เสียหาย โดย ผู้ต้องหาอาศัยช่องทางโซเชียลเฟซบุ๊ค ชื่อว่า Jakree Chaengmai รับดูดวง เมื่อผู้เสียหายสนใจดูก็จะออกกลอุบายว่า ผู้เสียหายดวงไม่ดีต้องทำการสะเดาะเคราะห์กรรมมีพิธีพราหมณ์ และอ้างว่าสามารถสื่อสารกับองค์เทพบนสวรรค์ได้และจะทำพิธีเพิกบุญกรรมแก้กรรม โดยเริ่มจากการดูในราคา 199 บาท จากนั้นจะมีพิธีหลายขั้นตอน
หากต้องการดวงดีให้ผู้เสียหายโอนเงินมาให้ เพื่อประกอบพิธี เริ่มจากกลักร้อย เพิ่มเป็นหลักพัน หลักหมื่น และหลักแสน จากนั้นผู้เสียหายก็ติดต่อบ่ายเบี่ยงและติดต่อยาก เมื่อผู้เสียหายทวงถามบ่อยๆก็ติดต่อไม่ได้เลย จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช มีนโยบายให้สืบสวนติดตามคนร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผ่านการหลอกลวงซึ่งมีหลายรูปแบบ อาศัยความเชื่องมงาย โปรดอย่าได้หลงเชื่อ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ