พนักงานเข้าห้องน้ำ 1-6 ชั่วโมงต่อวัน เลย”ถูกไล่ออก” แต่เขาไม่ยอม สุดท้ายจบแบบนี้…???

พนักงานบริษัทถูกไล่ออก ยื่นฟ้องขอค่าชดเชย 1 ล้าน เจองัดหลักฐานสู้ อยู่ในห้องน้ำนานเกิน 1-6 ชั่วโมงต่อวัน

เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่า พนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งในจีนถูกบริษัทไล่ออก เนื่องจากอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานในระหว่างทำงาน ซึ่งพนักงานไม่พอใจและเชื่อว่าการเลิกจ้างของบริษัทเป็นการบอกเลิกสัญญาจ้างโดยผิดกฎหมาย จึงยื่นฟ้องร้องให้บริษัทจ่ายค่าชดเชยสำหรับการเลิกจ้าง 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท)

ตามรายงานของสื่อจีน ระบุว่า นายหลิว จากเมืองหนานทง มณฑลเจียงซู ประเทศจีนทำงานเป็นพนักงานในบริษัทวงจรไฟฟ้าแห่งหนึ่งตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2015 โดยมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบพื้นที่โรงงานทั้งหมด

นายหลิวมีเงินเดือนประมาณ 10,000 หยวน (ประมาณ 51,165 บาท) แต่ในเดือนมีนาคม 2564 เขาถูกบริษัทไล่ออกโดยไม่คาดคิด ด้วยความรู้สึกไม่พอใจ นายหลิวจึงได้ยื่นฟ้องในเดือนสิงหาคม โดยเรียกร้องค่าชดเชยจำนวน 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท) จากบริษัท

ล่าสุด ศาลประชาชนเขตตงโจวของเมืองหนานทงได้ดำเนินการคดีข้อพิพาทด้านแรงงาน บริษัทให้เหตุผลในการไล่ออกว่า นายหลิวอยู่ในห้องน้ำนานกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน นายหลิวอ้างว่าเขาอยู่ในห้องน้ำเพราะความต้องการทางสรีรวิทยาส่วนบุคคล พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบในห้องน้ำ

บริษัทแจ้งต่อศาลว่าตามสถิติหน้าจอมอนิเตอร์ภายใน นายหลิวอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานถึง 11 ครั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยแต่ละครั้งจะอยู่ในห้องน้ำประมาณ 31 นาทีถึง 3 ชั่วโมง โดยคำนวณเป็นหน่วย 1 วัน เข้าห้องน้ำสั้นที่สุดใน 1 วัน รวม 1 ชั่วโมง 22 นาที นานสุดคือ 6 ชั่วโมง 21 นาที ซึ่งถึงระดับขาดงานอย่างเห็นได้ชัดเกิน 2 ชั่วโมง ถือว่าขาดงาน 1 วัน จากนั้นจึงจะไล่ออกตามระเบียบ

ผู้พิพากษาศาลประชาชนเขตตงโจวเมืองหนานทงเชื่อว่า คนส่วนใหญ่จะอยู่ในห้องน้ำเพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้น แต่นายหลิวอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานในวันทำการ แถมเขาอยู่ในห้องน้ำเกือบทั้งวัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอยู่นอกเหนือขอบเขตความต้องการทางสรีรวิทยาที่สมเหตุสมผล

นอกจากนี้ ยังอยู่นอกเหนือขอบเขตหน้าที่การงานของนายหลิวด้วย และเขาไม่ได้ส่งบันทึกการทำงานที่เกี่ยวข้องและหลักฐานอื่น ๆ เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองอยู่ในห้องน้ำเพื่อปฏิบัติหน้าที่

ท้ายที่สุด คำร้องขอค่าชดเชยของนายหลิวจากบริษัทยังขาดหลักฐาน และศาลก็ไม่สนับสนุน หลังจากมีคำพิพากษาแล้ว นายหลิวไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ และคำพิพากษาในคดีนี้ก็มีผลแล้ว