ระเบิดเขมรตกบ้าน ยายน้ำตาร่วงหลาน 8 ขวบสิ้นใจในอ้อมกอด ไม่กล้าบอกลูกชายหวั่นอาการทรุด
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 24 กรกฎาคม นางสะทน ย่าของ น้ำโขง เด็กชายวัย 8 ขวบ ซึ่งเสียชีวิต จากเหตุการณ์ระเบิดของทหารกัมพูชาตกใส่บ้านพัก บ้านโจรก หมู่ 2 ตำบลด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เปิดใจเล่านาทีสูญเสียหลานชายอันเป็นที่รัก และลูกชายยังอาการสาหัสรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นางสะทน บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเร็วมาก เราอยู่ที่บ้านอยู่เก็บของเสร็จแล้ว รอตากลับมาจากเลี้ยงควายแล้วก็ไปรับหลานมาจากโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว มีหลานทั้งหมด 2 คน คือ น้ำค้าง และ น้ำโขง จากนั้นยายได้ยินเสียงดังสนั่นและควันโขมง เป็นลูกแรกเลย ตอนนั้นได้แต่วิ่งหาว่าลูกหลานอยู่ไหนก่อนล้มลง ควันโขมงไปหมดมองไม่เห็นอะไรเลย พอควันจางลงตนก็รีบวิ่งออกมาหน้าบ้าน ปรากฏว่าเห็นลูกหลานนอนระเนระนาด หลานชายคนเล็ก นอนคว่ำหน้ากับพื้น ตนก็ร้องไห้ออกมาจนแทบสลบ
“ลูกชายวิ่งมาหาและถามว่า แม่ น้ำโขงอยู่ไหน พร้อมกับคลานทั้งที่ตัวเองก็บาดเจ็บเข้าไปหาลูกเอาผ้าเช็ดเลือดให้ลูก ตอนนั้นยายบอกลูกชายว่า ไม่ต้องคลาน เดี๋ยวแม่ไปเอาผ้ามาเช็ดให้เอง ก็ร้องไห้และอุ้มหลานเอาไว้ในอ้อมกอด ก่อนที่จะเรียกให้คนมาช่วย แต่ตอนนั้นไม่มีใครเลยสักคน ขณะที่หลานอีกคน ก็บาดเจ็บเหมือนกัน พยายามเรียกสติหลาน แต่หลานนอนนิ่ง”
นางสะทน เล่าต่อว่า ผ่านไป 30 นาที อบต.ในหมู่บ้านขับรถผ่านมาพอดี ให้รีบขึ้นรถเลยเพราะเห็นว่ารอรถกู้ชีพไม่ไหวแล้ว ซึ่งเขาก็มีน้ำใจมาก ขับรถมาได้ครึ่งทางหลานคนเล็กก็เสียชีวิตในอ้อมกอดของตน ไม่ทันได้ไปถึงที่โรงพยาบาล พอไปถึงคุณหมอบอกว่า สมองไหล หลานไม่รอดหรอก ส่วนพ่อของน้ำโขงพยายามสอบถามอาการของลูกชายตลอด ตอนนี้ก็เพิ่งออกจากห้องผ่าตัด
“ครอบครัวยังไม่ได้บอกความจริงให้ลูกชายรู้ว่า น้ำโขงได้เสียชีวิตแล้ว เพราะกลัวว่าลูกชายจะอาการทรุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันโหดร้ายมาก ประชาชนไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย อยากสาปแช่งมันให้มันเหมือนลูกหลานของเรา และฝากถึงรัฐบาลไทยอยากให้มาช่วยเหลือ เพราะว่าที่อยู่อาศัยพังหมดแล้ว”