กษัตริย์กัมพูชา นโรดม สีหมุนี โพสต์ข่าวอันเป็นเท็จ กล่าวหาไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีกองกำลังกัมพูชา และใช้ระเบิดลูกปราย ซึ่งถือเป็น อาชญากรรมสงคราม และละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
วันที่ 29 กรกฎาคม เพจ Army Military Force – สำรอง รายงานว่านโรดม สีหมุนี กษัตริย์แห่งกัมพูชา ได้โพสต์ข่าวอันเป็นเท็จ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการกล่าวหาว่า ประเทศไทย ว่ามีการใช้อาวุธเคมีในการโจมตีกองกำลังพูชา พร้อมกับยังระบุอีกว่าประเทศไทย ได้ละเมิดหลักมนุษยธรรม ในการใช้ระเบิดลูกปราย แม้จะไม่ได้เป็นภาคีของอนุสัญญาดังกล่าวก็ตาม
โดยสมเด็จฯ นโรดม ได้ระบุว่า “ประเทศไทยได้เดินหน้าก่ออาชญากรรมสงครามต่อไปอีก ผ่านการใช้อาวุธเคมี โดยเครื่องบินของไทยได้ทิ้งระเบิดควันพิษโจมตีมายังกองกำลังทหารกัมพูชา
อาวุธเคมีเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเด็ดขาดภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี (CWC) ซึ่งทั้งประเทศไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นรัฐภาคี การใช้อาวุธเช่นนี้ถือเป็นอาชญากรรมสงครามที่ร้ายแรงที่สุด
การกระทำดังกล่าวจะนำมาซึ่งการประณามและการสืบสวนโดยทันทีจากประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงองค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW) ด้วย
เมื่อวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา กองทัพไทยยังได้ใช้ระเบิดลูกปราย (Cluster Bombs) ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายระหว่างประเทศและถือเป็นอาชญากรรมสงครามเช่นกัน
หน่วยงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชาได้รายงานการค้นพบยุทโธปกรณ์ระเบิดพวงในพื้นที่ชายแดนของกัมพูชาหลังจากการโจมตีของไทย ซึ่งนี่เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่ากองทัพไทยได้ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและได้ก่ออาชญากรรมสงคราม
ไทยกำลังเผชิญกับการประณามจากนานาชาติ เนื่องจากการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยระเบิดพวงแห่งกรุงออสโล (CCM) ปี 2008 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2010 อนุสัญญานี้ห้ามการใช้ การผลิต การส่งต่อ และการเก็บสะสมระเบิดลูกปรายทั้งหมด
แม้ว่าไทยจะไม่ได้เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญานี้ก็ตาม แต่การใช้ระเบิดพวงก็ถูกจัดว่าเป็นการละเมิดหลักการมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เนื่องจากผลกระทบที่ไม่เลือกเป้าหมายและเป็นอันตรายระยะยาวต่อพลเรือน”