เรียกว่าเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจและติดตามกันอย่างต่อเนื่อง กรณีที่ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ยูทูบเบอร์หนุ่ม ออกมาโพสต์และไลฟ์ ประกาศเลิกรากับหมอลำสาว แพรวพราว แสงทอง เพราะฝ่ายหญิงมีมือที่สาม แถมฉะอีกคนว่า รู้ว่ามีลูกมีผัวแล้วแต่ยังมายุ่ง ก่อนที่ทางแพรวพราว จะออกมาไลฟ์บ้าง บอกว่ายอมรับว่ามีคุยคนอื่นแล้วรู้สึกดี แต่ไม่ถึงขั้นมีอะไรกัน ปัญหาเกิดจากความน้อยใจแฟนหนุ่มที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเมีย และไม่โอเคที่ฝ่ายชายมาโพสต์และไลฟ์เรื่องนี้โดยที่ไม่บอก ทั้งที่คุยกันส่วนตัวแล้ว ทำให้ตนโดนโจมตีว่าทำครอบครัวพัง
ทั้งนี้หลังจากที่ แพรวพราว แสงทอง ออกมาไลฟ์ชี้แจงไปไม่นาน ล่าสุด (22 กุมภาพันธ์ 2567) บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ก็ออกมาไลฟ์บ้าง พร้อมแชร์ไปลงเฟซบุ๊กตัวเอง บอกว่า “วันนี้ ให้เข้าใจ ทั้งหมด และจากลาด้วยดี” โดยมีรายละเอียดดังนี้
– เรื่องมันเกิดจากที่ตนเป็นคนโพสต์ ก็ยอมรับผิด ที่ทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราว 5 ปีที่คบกันมา ที่มาไลฟ์ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร แค่มาระบาย
– อยู่ด้วยกันมา 5 ปี ทุกอย่างดีหมด แพรวพราว เวลารักใครเขารักจริง และทุ่มเทสุด ๆ แล้วมันมีช่วงหนึ่งที่น้อยใจว่าแฟนไม่ค่อยให้จุ๊บ ให้หอม ก็มาสังเกต ถามว่าเธอเบื่อฉันอยู่หรือเปล่า สงสัยว่าเป็นช่วงรำคาญกันเหรอ
– เป็นคู่ที่อายุต่างกัน ภรรยาอายุมากกว่า 12 ปี ก็เข้าใจว่ามันต้องมีอุปสรรค แต่ตนก็พยายามปรับเยอะมาก ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น พยายามปรับหากัน
– เรื่องที่เขาน้อยใจว่าเราไปนู่นนี่ เราคุยกันแล้วว่าเวลาเราไปก็ไป เวลาเราเลี้ยงเราก็เลี้ยง แล้วเราก็ไม่ได้ไปบ่อยขนาดนั้น เวลาเราทำงานเยอะก็อยากไปเที่ยว พักผ่อนบ้าง ถามภรรยาว่าไปได้ไหม เขาก็บอกไปเลย แม่เข้าใจว่าถ้าพ่อไปได้ ไปโลด
– ส่วนตนยืนยันว่ารักภรรยาตลอด แต่ความเป็นผัวก็รู้สึกว่าเมียเรารำคาญเรา เหมือนตีตัวออกห่าง ก็มีความสงสัย รู้สึกแปลก ๆ
– วันหนึ่งตนอยู่ต่างจังหวัด บังเอิญเปิดกล้องวงจรปิดดูในโทรศัพท์ เห็นภรรยาที่อยู่บ้านคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ ใส่หูฟัง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ถามแล้วภรรยาบอกไม่ได้คุยกับใคร
– ตอนนั้นมีคนอื่นอยู่ด้วย เขาก็ไม่พอใจ ตนถามอีกก็ไม่ยอมตอบ แต่วันรุ่งขึ้นโพสต์ว่า “กูไม่ใช่คนดี 100% แต่กูรักองค์กร รักครอบครัว” แล้วลงรูปทุกคน ยกเว้นผัว จะให้ตนรู้สึกยังไง วันนั้นก็นอนแยกห้องกันเลย ไม่มีโมเมนต์มาง้อ
– มีปัญหาทุกครั้ง ตนต้องง้อทุกครั้ง สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบ จนไปถามเรื่องนี้ว่าทำไมเขาโพสต์แบบนี้ แล้วเขาก็ว่าไม่มีอะไร คุยเรื่องซื้อรถ ก็จบเรื่องนี้กันไป แต่ญาติ ๆ ของแพรวพราว ก็โพสต์ให้กำลังใจเขา แต่ไม่มีรูปตน ก็เสียใจ รู้สึกเหมือนโดนโจมตี
– จนวันหนึ่งรู้สึกหน้าภรรยาดูไม่สบายใจ รู้สึกว่าเขาไม่สบายใจที่โกหกเรา เขาก็บอกว่าเดี๋ยวเลิกงานมีเรื่องจะคุยกับเรา จนสุดท้ายก็สารภาพว่าไม่ได้คุยเรื่องรถ แต่คุยกับแฟนเก่า เป็นเพื่อนกัน ไม่มีอะไร เราก็บอกเขาว่าคุยกับแฟนเก่าไม่ได้ ฉันไม่ชอบ ขอให้เลิกคุยได้ไหม ตอนนั้นก็ร้องไห้หนักมาก ว่าเมียโกหก
– เขาบอกจะไม่ทำอีกแล้ว เป็นแฟนเก่าที่เลิกกันนานแล้ว กลับมาเจอกันเลยได้คุยกันแบบเพื่อน ไม่ได้มีอะไร ก็ขอโทษกัน ตนก็ถามว่าตนมีอะไรที่ผิดพลาด อยากให้แก้ไขไหม เขาก็บอกว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องแก้ไข เป็นตัวเองเลย ให้มีสติในการใช้ชีวิต บริหารงานให้มันได้ เราก็ตามนั้น ก็ขอให้บล็อกแฟนเก่าไป
– เรื่องนี้จบไปเมื่อเดือนธันวาคม จนเดือนมกราคม เหมือนกินเลี้ยงกับทีมงาน เราเมา เลยให้ทีมงานไปส่งแพรวพราวกลับบ้าน ทีมงานส่งแพรวพราวขึ้นห้อง ล็อกห้องแล้วเรียบร้อย แล้วกลับไปงาน แต่มีคนส่งข่าวว่าแพรวพราวลงมาจากบ้าน ไปไหน ไปเข้าป่าแล้ว
– ตนก็ว่าภรรยาเมาแล้ว ไปไม่ได้ ก็รีบกลับบ้าน พาขึ้นห้อง เขาก็บอกเขาจะอ้วก เมา ต้องออกมาเดิน ก็บอกว่า เมาก็ขึ้นห้อง ไม่ต้องลงมา ก็ส่งไปรอบ 2 แล้วกลับไปงานกัน
– จนรอบสุดท้าย กลัวเขาออกจากห้อง เลยให้คุณยายคนหนึ่งมานอนเฝ้าที่ห้องโถง กลัวแพรวพราวลงมาจากบ้าน กลัวเมาแล้วไปทั่วทีปทั่วแดน ตามป่าตามดง คือเป็นห่วง บอกว่าอย่าลงมา แต่เขาก็ยังลงมาอีก แล้วแอบทางประตูหลังบ้าน แล้วกล้องวงจรปิดจับทุกอย่าง เลยเห็นว่าแพรวพราวแอบคุยโทรศัพท์ออกทางหลังบ้าน
– รอบแรกกับรอบ 2 ดูเมามาก เดินเองไม่ได้ ต้องจูง แต่รอบ 3 มีคนเฝ้า แต่เดินออกทางประตูหลังบ้าน คุยโทรศัพท์ออกไป เลาะออกทางสระว่ายน้ำ แล้วเดินหลบเข้าซอยไป อันนี้คือเห็นเอง ก็งงว่าเป็นอะไร ทำไมแปลก ๆ
– พอตนกลับบ้าน เดินเข้าบ้าน แพรวพราวออกมา ก็ตกใจ นึกว่านอนแล้ว ไปไหนมา เขาก็ว่าไปนั่นไปนี่มา ตนก็งงว่าคนเฝ้าอยู่ ทำไมไม่เห็นว่าเขาไป คือเขาแอบเดินออกมาจากพุ่มไม้ ไม่เหมือนพฤติกรรมของคนเมา เดินเข้าบ้านมา แล้วมาเจอตนพร้อมกับมือที่สาม ก็งงว่ามายังไง ตอนนั้นใจแป้วแล้ว
– ตนบอกจะเปิดกล้องวงจรปิดดู ภรรยาก็โมโหมาก ถึงขั้นขึ้นมึงขึ้นกูตอนคุยกันเป็นครั้งแรก สุดท้ายตนก็เลยไหว้ขอโทษภรรยา ว่าให้ใจเย็น ๆ ร้องไห้ แต่ก็รู้สึกแล้วว่าแปลกแน่นอน
– จากนั้นตนก็ไปญี่ปุ่น 7 วัน อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง ภรรยาก็คุยโทรศัพท์ตลอด คุยกับใคร วางสายจากตนปุ๊บ คุยกับคนอื่นปั๊บ ไม่ได้เห็นว่าคุณไปอะไรกัน แต่คุยกันตลอด
– รู้ว่าแพรวพราวไปร้านเหล้าครั้งนึง ไปกับเพื่อน โพสต์ว่าไป 2 คน แต่ตนจับโป๊ะได้ว่าผู้ชายที่เป็นมือที่สามไปด้วย เพราะแพรวพราวโพสต์ว่าไปร้านนี้ ส่วนผู้ชายก็ลงสตอรี่ว่าอยู่ร้านเดียวกัน เราก็อ้าว อ้าวแล้วอ้าวอีก สงสัยมาตลอด ภรรยาก็ไปหน้ามิกซ์ตลอด จากที่ไม่เคยไป
– ทั้งหมดคือสาเหตุที่ตนโพสต์ เพราะมันสะสมมา คือตนไม่ใช่คนอยากทำลายใคร แต่สิ่งที่เราพูด เราไม่ได้เสียใจ เพราะตัดสินใจแล้ว ใครอยากด่าด่าได้เต็มที่ เพราะตนก็เกินทนเหมือนกัน ถามว่าปัญหาทุกอย่างเกิดจากตนเหรอ
– จากนั้น บิ๊ก ก็กลั้นน้ำตาไม่ไหว หลังจากพูดตัดพ้อหลายเรื่อง เล่าว่ามีถามแพรวพราว ว่าจะเอามัน (มือที่สาม) ออกไหม แต่เขาก็ตอบไม่ได้ ตนก็น้อยใจ ว่าตนทำมาทุกอย่างขนาดนี้ แค่เอาคนนี้ออกไม่ได้เหรอ
– ที่คุยกันตนอัดเสียงไว้หมด แต่ไม่เปิดหรอก ที่คุยกันไม่ได้อยากให้คนรู้ แต่ในเมื่อมันเกินไป มันสุดจะทน ก็ต้องพูดหรือเปล่า ถ้าเขามาบอกก่อนว่าไม่พอใจอะไร ถ้าเราไม่แก้ไขแล้วจะมีคนอื่น เราจะไม่ว่าเลย แต่นี่ไม่บอก มีเลย
บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ โพสต์ประกาศขอยุติบทบาทในนามผู้บริหารวงแสงทองฟินแลนด์ อย่างเป็นทางการ ขอแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขอเป็นฝ่ายถอยไปเอง คิดว่าไม่มีผมเขาคงบริหารงานกันได้ เพราะผมคงไม่สำคัญอะไรขนาดนั้น
เรื่องนี้อาจไม่จบ เขาอาจออกมาพูดอีก แต่ตนไม่พูดแล้ว ขอยืนยันว่าทุกอย่างที่พูดเป็นความจริง จะกลับมาปรับคุยเข้าหากันคงไม่ได้แล้ว มันหมดเวลาแล้ว เพราะเขาไม่เคยแคร์ความรู้สึกเราเลย