รู้หรือไม่ ไทยติดอันดับประเทศที่มี “การนอกใจ” มากที่สุดในโลก

สำหรับสังคมไทย “การนอกใจ” เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมและยอมรับไม่ได้ ทว่าประเทศไทยก็ยังติดอันดับประเทศที่มีการนอกใจมากที่สุดในโลกอยู่แทบทุกปี เช่นเดียวกับในปี 2023 นี้ ที่การสำรวจของเว็บไซต์ World Population Review ก็มีประเทศไทยติดอันดับ Top 5 เช่นเดิม มีประเทศใดติดอันดับบ้าง และเหตุผลของการนอกใจคืออะไร Sanook พาทุกคนไปสำรวจโลกของการนอกใจที่จะทำให้คุณตกใจ! 

10 ประเทศที่มีนอกใจมากที่สุดในโลก

มีหลายประเทศในโลกใบนี้ที่มองว่า “การนอกใจ” เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการมีชีวิตคู่ โดยเฉพาะประเทศในยุโรป ที่มองว่าความสัมพันธ์แบบเปิด หรือการอนุญาตให้คนรักมีคู่นอนได้หลายคน ไม่ใช่ความผิดหรือเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจกัน และหลายประเทศเหล่านั้นก็ติดอันดับ Top 10 ของการสำรวจในครั้งนี้ แต่สำหรับประเทศไทยที่มองว่าการนอกใจเป็นความผิดเลวร้ายและไม่อาจยอมรับการกระทำนี้ได้ กลับรั้งอันดับ Top 5 ในการสำรวจของปีนี้ 

และนี่คือ 10 ประเทศที่มีสถิติการนอกใจสูงที่สุดในโลก 

  • สหรัฐอเมริกา 71%
  • เยอรมนี 68%
  • สหราชอาณาจักร 66%
  • ไทย 61%
  • บราซิล 57%
  • ฝรั่งเศส 57%
  • รัสเซีย 53% 
  • ญี่ปุ่น 49%
  • โรมาเนีย 46%
  • ออสเตรเลีย 44%

จากการสำรวจในครั้งนี้ พบว่า ในสหรัฐอเมริกาที่มีสถิติการนอกใจสูงที่สุดในโลก คนนอกใจไปหา “แฟนเก่า” มากที่สุด ในขณะที่เยอรมนีและสหราชอาณาจักร คนมักจะนอกใจไปหา “เพื่อน” ส่วนประเทศไทย ฝรั่งเศส รัสเซีย และออสเตรเลียนั้น คนส่วนใหญ่จะนอกใจไปหา “คนแปลกหน้า” หรือเป็นความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ (One-night stand) มากที่สุด

ทั้งนี้ ประเทศที่มีสติถิการนอกใจน้อยที่สุดในโลก คือ “ไอซ์แลนด์” ซึ่งมีอัตราการนอกใจเพียง 9% เท่านั้น 

ทำไมถึง “นอกใจ” 

โพลสำรวจของ Superdrug Online Doctor พบว่า ผู้ชายและผู้หญิงมีเหตุผลการนอกใจที่แตกต่างกัน โดยการสำรวจผู้หญิงอเมริกันและยุโรป ชี้ว่า ผู้หญิงเลือกที่จะนอกใจคนรักเพราะรู้สึกไม่ได้รับความรักและความสนใจ ในขณะที่เหตุผลของผู้ชายอเมริกันและยุโรป ระบุว่า ผู้ชายเลือกนอกใจเพราะ “คนนั้น” เซ็กซี่และน่าสนใจ 

ด้านเว็บไซต์ Truth About Deception ได้สร้างโพลสำรวจ “เหตุผลที่นอกใจ” เอาไว้ โดยมีผู้เข้ามาร่วมตอบคำถามมากกว่า 94,600 ราย ซึ่งข้อมูลของวันที่ 23 มีนาคม 2565 ระบุเอาไว้ว่า 

  • ผู้หญิง 43.7% และผู้ชาย 22.2% นอกใจคนรักไปหา “คนรู้จัก” ที่ทั้งสองคนรู้จัก
  • ผู้ชาย 72.1% นอกใจไปหาคนแปลกหน้า หรือมีความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ ขณะที่ผู้หญิง 53.1% นอกใจด้วยลักษณะแบบเดียวกัน
  • ผู้หญิง 53.1% นอกใจสามีมากกว่าหนึ่งครั้ง และผู้ชาย 66.9% นอกใจภรรยามากกว่าหนึ่งครั้ง
  • ผู้หญิง 34.6% และผู้ชาย 25.9% นอกใจเพราะรู้สึกเบื่อกับ “เรื่องบนเตียง” ของตัวเอง
  • ผู้หญิง 49.8% และผู้ชาย 19.8% คิดจะเลิกกับคนรักเพราะการนอกใจ 

โพลสำรวจและงานวิจัยหลายชิ้นในต่างประเทศเผยว่า ความสัมพันธ์จากการนอกใจมักจะไม่ยืนยาว โดย 25% ของการนอกใจมักจะกินเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ขณะที่ 65% ของการนอกใจใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือน และมีเพียง 10% ของการนอกใจเท่านั้น ที่จะกินเวลามากกว่า 6 เดือน

ผลสำรวจยังชี้อีกว่า คนที่เคยนอกใจมีแนวโน้มสูงกว่า 3.5 เท่าที่จะนอกใจอีกครั้ง เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เคยนอกใจมาก่อน

ใคร “นอกใจ” มากกว่ากัน

จากผลการสำรวจของ General Social Survey ชี้ว่า ผู้ชายที่แต่งงานแล้วกว่า 20% ยอมรับว่าเคยนอกใจภรรยา ขณะที่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว 13% ยอมรับว่าเคยนอกใจสามี อย่างไรก็ตาม เปอร์เซ็นต์การนอกใจของผู้หญิงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นกว่า 40% ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่นักวิจัยหลายคนก็เชื่อว่าเปอร์เซ็นต์การนอกใจของผู้หญิงน่าจะมีสูงกว่าที่สถิติแสดง เพียงแต่ผู้หญิงไม่ค่อยยอมรับว่านอกใจ

แอปพลิเคชันหาคู่ที่เกิดขึ้นกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การนอกใจเกิดได้ง่ายขึ้น และง่ายต่อการปกปิดความสัมพันธ์ลับ ๆ เหล่านี้ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ชายหรือผู้หญิงเหล่านั้น ใช้วิธีการ “ส่งข้อความ” ให้กันและกัน นอกจากนี้ มิลลิเนียมมีแนวโน้มที่จะใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้ในการนอกใจ หรือมากกว่า 11% ระบุว่า พวกเขาใช้แอปในการนอกใจคนรัก

นี่เป็นข้อมูลจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ไม่ได้เป็นภาพแทนของคนทั้งสังคม เพราะในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนเพศไหน เชื้อชาติอะไร หรือประเทศไหน ก็ล้วนแล้วแต่มีคนที่รักเดียวใจเดียวและมีคนที่นอกใจไปหาคนอื่นเหมือนกันทั้งนั้น