เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยรู้สึกว่าอยากกินตลอดเวลา กินแล้วก็ยังอยากกินอีก เรียกว่ากินไม่หยุดไม่หย่อน บอกเลยว่านี่อาจจะไม่ใช่อาการธรรมาดแล้ว นี่มันเข้าข่ายโรค Binge Eating หรือที่เรียกว่าโรคกินไม่หยุด ไปทำความรู้จักโรคนี้กัน!
อาการของโรค Binge Eating หรือโรคกินไม่หยุด
ผู้ป่วยจะมีอาการอยากกินอาหารในปริมาณมาก ๆ ไม่รู้ตัวว่าอิ่มหรือยัง อยากหยุดกินมั้ย หรืออย่างไร ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและอ้วนขึ้นในที่สุด นอกจากนี้ผู้ป่วยก็ยังไวต่อความรู้สึกด้านลบจากคนรอยตัวจากการเปลี่ยนแปลงภายนอกของตนเอง จนนำไปสู่อาการซึมเศร้าและเกิดความเครียดตามมา
อาการที่สังเกตได้
– ผู้ป่วยมักรู้สึกผิด ละอายใจ หรือรังเกียจที่ตัวเองกินเยอะ
– มีอารมณ์ซึมเศร้า วิตกกังวล
– รู้สึกจุก ไม่สบายตัวเพราะกินเยอะเกินไป
– ควบคุมการกินของตัวเองไม้ได้
– กินดึก
– มีนิสัยชอบแอบซุก แอบซ่อนอาหารไว้ตามที่ต่าง ๆ ในบ้าน พร้อมที่จะกินตลอดเวลา
– น้ำหนักตัวขึ้นลงไม่คงที่
– เกิดความลำบากใจและหลีกเลี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์
– ความมั่นใจลดลงอย่างเห็นได้ชัด
วิธีรักษาโรค Binge Eating หรือโรคกินไม่หยุด
การรักษาทางดานจิตใจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงหรืออาจจะเหนือกว่าการใช้ยา ดังนั้นแพทย์อาจพิจารณาการรักษาทางจิตใจควบคู่ไปกับการใช้ยา เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาดียิ่งขึ้น
1. รักษาโดยปรับเปลี่ยนที่แนวคิด และ พฤติกรรม การกินโดยมีเป้าหมายที่การลดความถี่ของ binge eating ลดการกินอาหารที่พลังงานสูง รวมถึงการมองภาพลักษณ์ตนเอง (self image) ของผู้ป่วยให้ดีขึ้น
2. จัดการกับปัญหาเกี่ยวกับสภาพจิตใจขณะนั้นเช่นภาวะซึมเศร้า และ ความขัดแย้งในจิตใจของผู้ป่วย รวมถึงความขัดแย้งของผู้ป่วยเองกับสิ่งแวดล้อม
ถ้าหากมีอาการดังกล่าว หรือพบเห็นคนรู้จักที่มีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติแนะนำให้ไปพบแพทย์ด่วน เป็นภัยร้ายที่แผงมาโดยที่เราไม่รู้ตัว
ที่มา : sanook