สาววัย 22 มีเซ็กซ์กับแฟน จู่ๆ ปากเบี้ยวหามส่ง รพ. หมอเผยอันตรายถึงชีวิต เกือบถูกตัดขา

SETN รายงานเรื่องราวของหญิงวัย 22 ปี กำลังมีเซ็กซ์กับแฟนหนุ่มของเธอ พอผ่านไปได้ครึ่งทาง จู่ๆ ปากและใบหน้าของเธอก็บิดเบี้ยว ดวงตาหรี่ลงผิดปกติ แฟนหนุ่มตกใจมาก จึงรีบพาเธอไปโรงพยาบาล ปรากฎว่าเรื่องนี้ร้ายแรงกว่าที่คิด แต่ถึงมือหมอทันเวลา ทำให้เธอรอดชีวิตมาได้ แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ เท้าของเธอก็กลายเป็นสีดำ มีอาการเนื้อตาย

ศัลยแพทย์หัวใจเผยว่า หญิงวัย 22 ปี จู่ๆ ปากและหน้าของเธอก็บิดเบี้ยว ระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม ตอนแรกแฟนหนุ่มคิดว่าเธอล้อเล่น แต่ต่อมาก็ไม่หาย เขาจึงรีบพาหญิงสาวไปโรงพยาบาล หมอตรวจพบว่าหญิงรายดังกล่าวเป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบ โชคดีที่เธอถึงมือหมอทันเวลาภายใน 3 ชั่วโมง ทำให้ยาละลายลิ่มเลือดยังช่วยชีวิตเธอไว้ได้ทัน ก่อนจะส่งตัวเข้า ICU เพื่อสังเกตอาการ

ต่อมาเท้าของผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นสีดำ และเริ่มสูญเสียประสาทความรู้สึกที่เท้า พอไปตรวจเอกซเรย์ก็พบว่า หลอดเลือดแดงใต้ช่องท้องของฝ่ายหญิงอุดตันทั้งหมด ซึ่งมันเป็นอาการผิดปกติกว่าที่คิด จึงส่งตัวไปปรึกษาศัลยแพทย์หัวใจแทน จนพบสา่เหตุที่แท้จริงว่า สาวคนนี้มีลิ่มเลือดในหัวใจ เป็นผลมาจาก Myxoma (เนื้องอกที่หัวใจ) เมื่อหัวใจเต้นแรง ระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ จึงทำให้ลิ่มเลือดถูกฉีดไปทั่วและไปอุดตันตามอวัยวะต่างๆ และมาเกิดอาการหนักตอนมันไปอุดตันที่หลอดเลือดสมอง และที่เท้าเป็นสีดำก็เพราะเส้นเลือดอุดตันตรงบริเวณดังกล่าว

เนื้องอก myxoma ของสาวคนนี้ ขนาดประมาณ 6-7 ซม. มันไม่พัฒนาไปเป็นมะเร็ง แต่ส่งผลกระทบอย่างอื่นแทน เมื่อหัวใจเต้นแรง เนื้องอกนี้จะแกว่งไปมา เมื่อเธอตื่นเต้นเกินไปขณะมีเพศสัมพันธ์ ทำให้หัวใจเต้นเร็ว และเนื้องอกก้อนนี้ก็ได้รับผลไปด้วย 

แพทย์ทำการผ่าตัดหัวใจ และขูดเอาเนื้องอกออก เปิดหลอดเลือดที่เท้าของเธอ และเอาลิ่มเลือดออก เพื่อรักษาเท้าของเธอเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเมื่อเนื้อตายเธออาจจะต้องตัดเท้าทิ้ง